มาตคามสัญญาแล้วค่ะ ตอนนี้ 20+ XD อาจมีฉากและคำพูดรุนแรงไม่เหมาะสม
แต่ที่ลงวันนี้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นนะคะ เหลืออีกครึ่งต่อคอนหน้า กั๊กไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น //โดนตบ
[Gintama] Beauty Beast E.P.18
แต่ที่ลงวันนี้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นนะคะ เหลืออีกครึ่งต่อคอนหน้า กั๊กไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น //โดนตบ
[Gintama] Beauty Beast E.P.18
Pair
:Takasugi x Kamui
Rate
: PG-13 (น่าจะ…)
Writer
:Satouyui
คามุอินั่งมองหน้าจอมือถืออยู่นานสองนาน
หลังจากอ่านข้อความต่างๆ ที่เขาเคยคุยเล่นกับทาคาสุงิมาตั้งแต่ครั้งแรก
แค่กดลบทิ้งไปยังทำไม่ได้ ทำไมถึงลบไม่ได้กันนะ? จะเก็บเอาไว้ให้รกเครื่องทำไม?
ในเมื่อระหว่างเขากับรุ่นพี่มันจบไปแล้ว
เขาไม่น่าปล่อยให้เรื่องราวของรุ่นพี่มามีอิทธิพลกับเขามากมายขนาดนี้เลย
ทำไมถึงยังลืมใบหน้าและน้ำเสียงไม่ได้สักที?
‘ เอาเถอะ นายจะไปสนิทกับใครก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่นี่
ขอให้สนุกกับเพื่อนใหม่ละกัน ’
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาทำลายความเงียบ
คามุอิรีบปาดน้ำตาที่หางตาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้อีกฝ่าย
คางุระนั่นเอง เด็กสาวเดินตามเข้ามาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่ชายบนเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองนิ่งเขม็ง
“ มีอะไรหรอคางุระ? ทำไมจ้องพี่แบบนี้ล่ะ? ”
“ ทำไมช่วงนี้อาเฮียชินไม่มาเที่ยวบ้านเราล่ะ? ”
“ เค้าคงไม่มาแล้วล่ะ ”
คามุอิเอ่ยตอบน้องสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ชื่อของรุ่นพี่ทำให้เขารู้สึกเหงาแปลกๆ
“ อาเฮียทะเลาะกับอาเฮียชินหรอ? ”
“ เปล่าสักหน่อย ก็ตอนนี้เค้ามีคู่หมั้นแล้วนี่
เค้าก็ต้องเอาเวลาไปสนใจเธอสิ ”
“ อั้วไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเลย ”
“ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ? เค้าไปทำอะไรให้คางุระไม่พอใจหรอ? ”
“ ก็เค้ามาแย่งอาเฮียชินไปจากอาเฮียของอั้วนี่นา ”
“ บ้าน่า แย่งอะไรกัน? ”
“ ทั้งๆ ที่อาเฮียชินสัญญากับอั้วเอาไว้อย่างดีแล้วว่าจะไม่ทอดทิ้งอาเฮีย
แต่ทำไม...”
“ อะไรกัน? สัญญากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ”
“ ตั้งแต่อาเฮียอยู่โรงพยาบาลแล้วล่ะ
ตอนนั้นอาเฮียยังไม่รู้สึกตัว อั้วบอกอาเฮียชินว่าอย่าทอดทิ้งอาเฮียไปไหน ”
“ คางุระจะไปเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้นทำไม?
คำพูดที่ออกมาจากปากเค้าน่ะไม่มีความจริงเลยสักนิด...ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ
พี่ก็จะเข้านอนแล้ว ”
คามุอิเอ่ยพลางลูบเรือนผมสีส้มของน้องสาวด้วยความรู้สึกเห็นใจที่คางุระไปหลงเชื่อคำพูดสวยหรูของรุ่นพี่
สักพักคางุระก็ขอตัวกลับไปนอน
เด็กหนุ่มปิดประตูแล้วกลับมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า
ทางด้านทาคาสุงิที่นั่งมองมือถือของตัวเองเช่นกัน
ป่านนี้นายจะเข้านอนรึยังนะ? พอได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายหลังจากได้ยินคาซึระพูดออกไปตามคำขอของเขาแล้วก็อดรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้
รอฉันก่อนนะ คามุอิ
สักวันหนึ่งฉันจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของฉันให้นายแต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่ได้รู้จักนาย
ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี ฉันมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ นาย
เวลาสายๆ
ของวันเสาร์
“
วันหยุดแท้ๆ จะออกไปไหนอีกล่ะ? ” ทาคาสุงิแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน
จนชินอิจิเห็นแล้วก็รีบเดินเข้ามาทัก
“ ผมมีนัด
” ทาคาสุงิเอ่ยตอบสั้นๆ ขณะกำลังนั่งใส่รองเท้าที่ชานบ้าน
“
แล้วจะกลับบ้านกี่โมง? ”
“
ไม่รู้เหมือนกัน ”
“
ยังไงก็หัดรับสายด้วยล่ะ มือถือมีไว้โทรติดต่อกัน ไม่ใช่เอาไว้ประดับกระเป๋า ”
“
พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายสักหน่อย ไปล่ะ ”
ทาคาสุงิเอ่ยจบก็เดินไปที่รถเก๋งสีดำที่ถูกขัดจนเงาวับแล้วขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
ชินอิจิถอนหายใจยาวออกมา ขับรถเร็วแข่งกับจรวดแบบนี้จะรีบไปไหนของมัน?
ทาคาสุงิแวะรับเพื่อนทั้งสามที่หน้าบ้าน
ก่อนจะขับเข้าไปในเมือง ก่อนจะยื่นมือถือของเขาให้คาซึระคอยเช็ค GPRS
ของคามุอิตลอดเวลา นายหนีฉันไม่ได้หรอก ฉันจะตามไปขัดขวางเดทของนาย กล้าดียังไงถึงได้รับไปคำเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น
“
ตามติดเค้ายังกับคุณพ่อหวงลูกสาวเลยนะแก ” กินโทกิที่นั่งอยู่เบาะหลังกับซาคาโมโตะเอ่ยแกมประชดขึ้นมา
“
ถ้าแกไม่อยากไปก็ลงรถซะเดี๋ยวนี้เลยสิ ”
ทาคาสุงิเอ่ยตอบผ่านกระจกมองหลังด้วยน้ำเสียงนิ่งขณะกำลังรอสัญญาณไฟ
“ แหม ไหนๆ
ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เพื่อนก็ต้องช่วยกันสิวะ ”
“ ซึระ
ตอนนี้คามุอิอยู่ไหนแล้ว? ” ซาคาโมโตะยื่นหน้าเข้ามาเอ่ยถามเพื่อนหน้าสวยที่กำลังจ้องหน้าจอมือถือไม่วางตา
“
กำลังจะตรงไปที่ชิบูย่า เอ๊ะ? ” จู่ๆ คาซึระก็อุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจ
ทำให้เพื่อนทั้งสามหันมามอง
“
มีอะไรซึระ? ”
“
ดูเหมือนจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่สวนสนุกนะ ”
“ หมอนั่นต้องคิดว่าพวกเราสะกดรอยตามแน่ๆ
เลยเปลี่ยนเป้าหมายกะทันหัน ”
“
สวนสนุกใช่มั้ย? ” ทาคาสุงิเอ่ยถามพร้อมกับหักพวงมาลัยไปอีกทางทันที
ทำเอาเพื่อนทั้งสามแทบพุ่งหน้าทิ่ม จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะว๊อย
เกิดหน้าตาพวกกรูเสียโฉมหมดหล่อขึ้นมาจะทำไงวะไอ้บ้าหึงหน้ามืดนี่!
“ เอ๋? ไม่ไปดูหนังแล้วหรอครับ?
” คามุอิที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังเอ่ยถามขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนทิศทางไปกะทันหัน
“ โทษทีนะ
วันนี้หนังไม่ค่อยสนุกหรอก ไปเที่ยวสวนสนุกกันดีกว่า ” บันไซหันมาเอ่ยตอบร่างบางที่เสียหลักจนต้องเกาะเอวของเขาแน่น
เมื่อจู่ๆ เขาเปลี่ยนเป้าหมายที่จะไป
“
เอางั้นก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้ ” คามุอิตอบอย่างไม่เรื่องมาก ที่ไหนก็ได้
ขอแค่ไม่ต้องเจอรุ่นพี่ก็พอแล้ว
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงสวนสนุกในเวลาต่อมา
บันไซเอามอเตอร์ไซค์ไปจอด ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในพร้อมเด็กหนุ่ม
เขาแอบมองการแต่งกายของอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา วันนี้นายแต่งตัวได้น่ารักมากเลยนะ
เสื้อมีฮู้ดสีฟ้าตัดกับสีขาวเข้ากับเด็กหนุ่มอย่างลงตัว แถมกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป
และรองเท้าผ้าใบสีฟ้า ดูยังไงก็เหมือนเด็กผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวห้าวๆ ไม่มีผิด
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับทาคาสุงิและพรรคพวกอีกสามคนแอบเดินตามไปติดๆ
สายตาคมของเขาจดจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของร่างบางราวกับไม่ปล่อยให้คลาดสายตาไปไหน ไม่ว่าคามุอิกับบันไซจะเดินไปที่ไหน
ทาคาสุงิก็ตามไปทุกที่ พอเห็นทั้งสองหยุดซื้อไอศครีม
ทั้งสี่ก็ต้องหาที่หลบแถวนั้นให้พ้นสายตาของคนทั้งคู่
จนโดนคนอื่นที่มาเที่ยวสวนสนุกมองด้วยสายตาสงสัย
“ แหม
ยังกับมาเดทกันเลยแฮะ น่าอิจฉาจังเลยน๊า ”
“ นั่นสิ
คามุอิคุงแต่งตัวน่ารักจริง ดูเผินๆ นึกว่าเด็กผู้หญิงเลยนะเนี่ย ”
“
ถ้าพวกแกสองคนอิจฉาก็ไปเดทกันเองซะสิ ”
“ หึ้ย
ไม่เอาหรอกเว้ย พูดจาน่าขนลุก ถ้าให้เดทกับไอ้หงอกนี่
ฉันขอเอาหัวโขกเสาไฟฟ้าตายดีกว่า ”
“ หราาาาา
คิดว่าฉันอยากเดทกับแกมากรึไงห๊ะ? ไอ้หัวหมูหยองค้างคืนนี่ ”
“ ชู่ว์
พวกแกสองคนหยุดทะเลาะกันสักที เดี๋ยวสองคนนั่นก็รู้ตัวหรอก ”
“ แล้วพวกเราสี่คนเดินสะกดรอยตามต้อยๆ
คงจะไม่รู้ตัวหรอกนะ ” กินโทกิเอ่ยประชดเพื่อนหน้าสวย นี่มันเวรกรรมอะไรวะเนี่ย?
แก๊งอสุราสะกดรอยตามเด็กปี 1 เนี่ยนะ? รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น
นี่ถ้าไม่ช่วยเพื่อนเขาก็ไม่ยอมทำแบบนี้หรอก
“ นั่นสิ
พวกเราต้องทำตัวให้กลมกลืนหน่อย ” คาซึระยกยิ้มขึ้นมา
ก่อนจะเดินไปซื้อหมวกแฟนซีหูมิกกี้มาสี่อัน
“
แกคิดว่าฉันจะใส่หมวกปัญญาอ่อนแบบนี้หรอ? ”
ทาคาสุงิเอ่ยถามพลางขมวดคิ้วมองหมวกในมืออีกฝ่าย
“
แกนี่มันหยาบคาย พูดจาใจร้ายมากเลยนะ ดูซิ ใครๆ ก็ใส่กันทั้งนั้น ” คาซึระเอ่ยกับเพื่อนหน้าคมด้วยสีหน้ามุ่ย
“
ฉันว่าก็น่ารักดีออกนะ ” ซาคาโมโตะเอ่ยพลางหยิบหมวกมาใส่บ้าง อ่า
เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
“
แกก็ใส่ด้วยสิ จะได้ไม่แปลกแยก ” กินโทกิเอ่ยพลางหยิบหมวกมาใส่ให้เพื่อนหน้าคมบ้าง
ก่อนจะหัวเราะชอบใจ พวกเขาทั้งสี่หยอกล้อกันเหมือนตอนเด็กๆ ทาคาสุงิจำใจต้องใส่หมวกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อไม่ให้เป้าหมายจำหน้าพวกเขาได้
คามุอิกับบันไซพากันเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างด้วยความสนุกสนาน
อย่างน้อยก็พอจะทำให้ลืมเรื่องที่อยากลืมไปบ้าง ทั้งสองมาหยุดพักเหนื่อยที่ม้านั่งยาว
บันไซเดินไปซื้อเซตข้าวกล่องมาเผื่อเด็กหนุ่มด้วย
ทั้งสองนั่งทานมื้อกลางวันอย่างเอร็ดอร่อย
“
เป็นไงบ้าง? สนุกรึเปล่า? ” บันไซหันไปเอ่ยถามอีกฝ่ายที่กำลังกินข้าวอย่างหิวโหยจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“
สนุกมากเลย ไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ แบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณรุ่นพี่ที่พาผมมา ”
คามุอิเอ่ยพลางยิ้มกว้างอย่างกับเด็กๆ
“
ถ้านายชอบ ฉันก็ดีใจ ” บันไซเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
พอได้เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนี้เขาก็ยิ่งหัวใจเต้นแรง
จู่ๆ
สายตาของบันไซก็เห็นคราบซอสที่เลอะริมฝีปากของร่างบาง จึงยื่นมือออกไปจะเช็ดออกให้
ทาคาสุงิทำท่าจะเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน แต่คาซึระรีบดึงเอาไว้ก่อน
พลางส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงเตือนว่าอย่าเพิ่งใจร้อนวู่วามทำอะไรลงไป
“
คราบซอสเลอะแหนะ ” แต่บันไซยังไม่ทันได้เช็ดออกให้
เด็กหนุ่มก็ผงะถอยใบหน้าออกไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ
“ อ๊ะ
จริงหรอครับ? ผมนี่ซุ่มซ่าม น่าอายจัง ”
“ ไม่หรอก
แบบนี้ก็น่ารักดีนะ ”
“
คราบซอสเลอะปากนี่มันน่ารักตรงไหนหรอครับ? ”
“ หึๆ ก็ดูเป็นธรรมชาติดี
เหมือนเด็กๆ เลย ”
“
แต่ผมไม่อยากเป็นเด็กนี่นา...ออกหมดแล้วรึยัง? ”
คามุอิเอ่ยถามพลางใช้หลังมือเช็ดออก แต่ก็ทำให้เปื้อนแก้มอีก
“ หึหึ เลอะมากกว่าเดิมอีก
นายมองไม่เห็นหรอก มานี่ ฉันจะเช็ดออกให้ ” บันไซเอ่ยพลางขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม
ก่อนจะยื่นมือออกไปเช็ดคราบซอสที่เลอะแก้มใสของอีกฝ่าย
ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งมองเห็นความน่ารักของคามุอิได้อย่างชัดเจน
ผิวหน้าที่นุ่มเนียนจนไม่คิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย
ทำให้ให้เขารู้สึกใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว ดวงตาสีฟ้ากลมโตที่มองเขาอย่างงุนงง
เหมือนเด็กน้อยใสซื่อ
ที่สำคัญริมฝีปากบางได้รูปสีชมพูอ่อนที่อยู่ตรงหน้านั้นทำให้เขาแทบจะอดใจเอาไว้ไม่ได้
บันไซโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มเรื่อยๆ จนอีกเพียงแค่คืบก็จะแนบชิดกันแล้ว
แต่จู่ๆ เขาก็ถูกกระชากไหล่จากด้านหลังอย่างแรง
พอเขาหันไปมองก็ถูกทาคาสุงิชกเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนล้มลงบนพื้น
บันไซยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ไหลจากมุมปาก คามุอิรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของบันไซ
แต่ถูกทาคาสุงิที่ไวกว่าคว้าแขนเอาไว้แล้วดึงให้ไปยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล
“ รุ่นพี่! ปล่อยผมนะ! เป็นหมาบ้ารึไง!?
” คามุอิก่นด่าอย่างนึกโมโห พลางพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากอีกฝ่ายให้ได้
“
ปล่อยให้นายไปอยู่กับหมอนั่นน่ะหรอ? ไม่มีทาง นายต้องไปกับฉัน! ส่วนแก ฉันจะมาคิดบัญฃีทีหลัง! ”
ทาคาสุงิบีบข้อมือเด็กหนุ่มแน่นและแรงกว่าเดิม
ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบันไซด้วยแววตาเอาเรื่อง พอเอ่ยจบก็ฉุดร่างบางให้ไปด้วย
“ คามุอิ! ทาคาสุงิ! ปล่อยคามุอิเดี๋ยวนี้นะ! ” บันไซลุกขึ้นแล้วทำท่าจะตามไป แต่ถูกกินโทกิกับซาคาโมโตะมาขวาง
“ ฉันว่านายอย่าตามไปเลยดีกว่า
ถึงตามไปก็ช่วยอะไรคามุอิไม่ได้อยู่ดี ถ้าหมอนั่นโกรธมากล่ะก็
ไม่มีใครหยุดเค้าได้หรอก ” คาซึระเอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างรู้สึกเห็นใจ
แต่ยังไงเขาก็ต้องเลือกช่วยเพื่อนอยู่ดี
“
เพื่อนของนายจะทำอะไรคามุอิ!? ”
“ เฮ้ย ไม่ต้องเป็นห่วงน่า
ทาคาสุงิไม่ฆ่าสุดที่รักของมันได้ลงคอหรอก คนนี้มันรักจะตาย ” ซาคาโมโตะเอ่ยด้วยรอยยิ้มกวนๆ
พลางตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ ราวกับจะช่วยปลอบใจ
“
นายน่ะตัดใจจากคามุอิซะเถอะ นายมาทีหลัง มันยากที่จะเข้ามาแทรก
ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ...อ่ะนี่ ฉันให้เป็นที่ระลึกละกัน ”
กินโทกิเอ่ยจบก็วางหมวกที่ทาคาสุงิทิ้งเอาไว้ให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น
บันไซกำหมัดชกต้นไม้แถวนั้นอย่างแรงจนมือของเขามีเลือดซึมอออกมาด้วยความเจ็บใจ
เขารู้สึกโทษตัวเองที่มารู้จักคามุอิช้าเกินไป
ทาคาสุงิพาคามุอิขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งจนมิดและตรงเข้าไปจอดในสถานที่จอดรถของโรงแรมชั้นดีแห่งหนึ่ง
เขาลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูอีกฝั่งและดึงร่างบางลงมา
เด็กหนุ่มพยายามใช้มืออีกข้างแกะมือที่เหนียวแน่นของอีกฝ่ายออกไป
“
นายก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ จะขัดขืนให้เสียแรงเปล่าทำไม? ”
“
รุ่นพี่พาผมมาที่นี่ทำไม? ”
“
นายไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่? ใสซื่ออย่างนี้
ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมอนั่นถึงได้หลอกจูบง่ายๆ ”
“
อย่าเหมารวมว่าคนอื่นต้องเหมือนตัวเองสิ! ”
“ หึ
นายเคยบอกว่าฉันเลวใช่มั้ย? วันนี้ฉันจะทำให้นายเห็นว่าเลวที่สุดมันเป็นยังไง ”
ทาคาสุงิยกยิ้มมุมปากก่อนจะฉุดกระชากร่างบางให้ตามเข้าไปในโรงแรม เขาเดินมาที่เคาน์เตอร์เพื่อจองห้อง
โดยโอบเอวเด็กหนุ่มเอาไว้แน่น
“
จองห้องพักแบบไหนดีคะ? ”
“
ขอห้องเตียงเดี่ยว ”
“
ไม่ทราบว่าจะพักกี่คืนคะ? ”
“ คืนเดียว ”
“ รบกวนขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ ”
พนักงานสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ทาคาสุงิเปิดกระเป๋าหยิบบัตรประชาชนให้พนักงาน
หญิงสาวรับบัตรประชาชนจากลูกค้าพลางลอบพิจารณารูปถ่ายในบัตรสลับกับตัวจริงอย่างไม่ให้รู้สึกว่าเสียมารยาท
เพราะภาพในบัตรดูมีอายุ แต่เค้าโครงหน้าตาเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียว
แถมยังแต่งกายด้วยเชิ้ตสีแดงเข้มดูดีอีกด้วย
“ มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ? ”
“ อ๋อ เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร รอสักครู่นะคะ
ดิฉันขอเวลาคีย์ข้อมูลของคุณลูกค้า….เรียบร้อยแล้วค่ะ
นี่ค่ะกุญแจห้อง รบกวนคุณลูกค้าเช็คเอ้าท์ในวันพรุ่งนี้จนถึงเวลา 11 นาฬิกานะคะ ” พนักงานสาวเอ่ยพลางยื่นบัตรประชาชนกับกุญแจห้องให้
“ ขอบใจ ” ทาคาสุงิรับบัตรมาใส่กระเป๋า
พร้อมกับหยิบกุญแจห้องมาด้วย และพาเด็กหนุ่มเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน
“ นี่ๆ ผู้ชายคนนั้นน่ะ ดูดีจังเลยเนาะ
แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าอายุ 40 แล้ว ”
พอเห็นลูกค้าไปแล้วหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นมา
“ หา?? จริงหรอ? ทำไมหน้าเด็กจังเลยล่ะ? ”
“ จริงสิ
เมื่อกี้ฉันแอบคำนวณอายุของเค้าจากปีเกิดในบัตรดูน่ะ สงสัยเค้าจะดูแลตัวเองดี ”
“
กินเด็กด้วยรึเปล่า? หึๆ คนที่พามาด้วยยังดูเหมือนเด็กม.ปลายอยู่เลยนะ ”
“
น่าอิจฉาเด็กคนนั้นจังเลยเนาะ มีแฟนหล่อขนาดนี้
เด็กสาวสมัยนี้ก็มีรสนิยมชอบผู้ชายอายุมากกว่ากันแล้วหรอเนี่ย? ”
“
นี่พวกเธอเม้าท์มอยอะไรกัน? ไม่ทำงานแล้วใช่มั้ย? ”
ผู้จัดการสาวใหญ่เดินผ่านมาตรวจงานก็เห็นกลุ่มพนักงานสาวจับกลุ่มคุยกัน
แถมหัวเราะคิกคักชอบใจจึงเดินเข้ามาถาม
พวกหล่อนจึงรีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
พอมาถึงห้องพักแล้วทาคาสุงิก็มืออีกข้างไขกุญแจเข้าไป
อีกข้างก็ยังโอบร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้เขาก็ดึงเด็กหนุ่มให้เข้ามาแล้วจัดการล็อคประตูเอาไว้ทันที
คามุอิเขยิบถอยหนีอีกฝ่ายจนแผ่นหลังชิดกับกำแพงห้อง
“ กลัวหรอ?
ทำเหมือนไม่เคยไปได้ หึหึ ฉันจะลงโทษที่นายไปกับผู้ชายคนอื่น ”
ทาคาสุงิยันแขนข้างหนึ่งบนกำแพง มืออีกข้างจับใบหน้าหวานให้หันมารับจูบร้อนแรงจากเขา
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกอึดอัดที่ริมฝีปากถูกบดขยี้ลงมา
มือเรียวพยายามผลักอกอีกฝ่ายออกไป
แต่ก็ยิ่งทำให้ถูกร่างโปร่งรุกจูบอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม
มืออีกข้างของทาคาสุงิเลื่อนลงมารั้งเอวบางให้แนบชิด ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาจูบที่ซอกคอขาวของร่างบางจนเป็นรอยแดงทับรอยเดิม
ราวกับจะเน้นย้ำความเป็นเจ้าของ ขณะที่ริมฝีปากกำลังระดมจูบไปทั่วซอกคออย่างหิวกระหายอยู่นั้นก็เลื่อนมือลงไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของอีกฝ่าย
ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงของเด็กหนุ่ม เพื่อสัมผัสส่วนอ่อนไหวที่ถูกห่อหุ้มอยู่ด้านใน
“ อ๊ะ…รุ่นพี่ปล่อยนะ…เอามือออกไป….”
คามุอิเอ่ยออกมาอย่างลำบาก เมื่อส่วนอ่อนไหวถูกอีกฝ่ายลูบไล้อยู่ข้างใน
“ หึหึ ปล่อยให้โง่สิ…แน่ใจหรอว่าอยากให้ปล่อย…”
ทาคาสุงิเอ่ยกระซิบข้างใบหูที่แดงก่ำของเด็กหนุ่มอย่างพึงพอใจ พร้อมกับเพิ่มแรงเข้าไปจับส่วนอ่อนไหวของร่างบางให้เต็มมือมากกว่าเดิม
จนเรียวขาสั่นไหวเบาๆ แทบจะยืนไม่อยู่
ทาคาสุงิถอดกางเกงยีนส์ตัวเล็กของร่างบางลงมาจนถึงเข่าพร้อมกับชั้นใน
ก่อนจะใช้ปากกับส่วนอ่อนไหวที่เริ่มตื่นตัวของอีกฝ่ายอย่างเป็นจังหวะตามที่เขาควบคุม
คามุอิหลับตาลงทันที เพราะไม่อยากเห็นภาพน่าอับอายตรงหน้า
ท้องไส้ของเขารู้สึกปั่นป่วนไปหมด เมื่อร่างโปร่งขยับปากเร็วขึ้นเรื่อยๆ
มือเรียววางลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่ายเพื่อยึดเอาไว้ให้ยืนอยู่ได้
ร่างบางส่งเสียงครางในลำคอออกมาเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปาก
และใช้มือขยับรูดรั้งจนในที่สุดก็ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเต็มมือของร่างโปร่ง
ทาคาสุงิยกยิ้มอย่างพึงพอใจ และบังคับให้เด็กหนุ่มเลียน้ำรักที่เลอะมือของเขาออกให้หมด
“
เลียออกซะ ” ทาคาสุงิยื่นมือที่เลอะไปด้วยของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนมมาตรงหน้าเด็กหนุ่มที่หมดแรงนั่งกองที่พื้นห้อง
“ ไม่ ”
คามุอิเบือนหน้าหนีไปอีกทางด้วยความโกรธปนอับอาย
“ จะทำหรือไม่ทำ?
ฉันให้นายเลือกระหว่างเลียของตัวเอง…หรือว่าเลียของฉัน? ”
ทาคาสุงินั่งชันเข่าตรงหน้าร่างบาง พร้อมยื่นข้อเสนอที่ทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดงระเรื่อ
ในที่สุดเด็กหนุ่มก็เลือกที่จะทำความสะอาดน้ำรักของตัวเองที่เปื้อนมืออีกฝ่าย
ลิ้นอุ่นชื้นของคามุอิค่อยๆ
เลียของเหลวสีขาวขุ่นออกทีละนิด ทาคาสุงิมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกชอบใจ
ช่างเป็นภาพที่งดงามอะไรอย่างนี้ จนความรู้สึกในใจของเขาทวีรุนแรงมากยิ่งขึ้น
แต่ว่าคามุอิยังเด็กเกินไปจึงให้เลียแค่นิ้วของเขาก็พอ เมื่อร่างบางเลียออกจนเกือบจะหมดแล้ว
เขาก็ลุกขึ้นถอดกางเกงของตัวเองออกจนหมดเช่นกัน
ก่อนจะพยุงอีกฝ่ายขึ้นมา
“ ผมเกลียดรุ่นพี่…ไปตายซะ! ”
คามุอิก่นด่าอีกฝ่ายออกมาด้วยความเจ็บปวดในใจ จนน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง
“ หึหึ
ก่อนที่จะตายฉันขอขึ้นสวรรค์กับนายก่อนละกัน ” ทาคาสุงิจับร่างบางหันหลังแล้วผลักไปจนใบหน้าชิดกำแพง
ก่อนจะแทรกกายเข้าไปในช่องทางของอีกฝ่ายทีเดียวจนสุด
ร่างบางสะดุ้งเฮือกที่อีกฝ่ายรุกรานเข้ามาโดยไม่รอให้ทันตั้งตัว
เขาเริ่มขยับกายทีละนิด
แต่ก็เรียกเสียงครางหวานจากเด็กหนุ่มเป็นระยะ เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ จนแผงอกชิดแผ่นหลังของร่างบาง
พลางก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอของอีกฝ่ายไปด้วย ในขณะที่ช่วงล่างยังขยับเข้าออกเป็นจังหวะอย่างไม่รีบร้อน
“ อื้ออ…รุ่นพี่…ปล่อย…”
คามุอิส่งเสียงครางในลำคอพร้อมกับร้องห้ามอีกฝ่ายที่เอื้อมมือมาจับส่วนอ่อนไหวของเขา
“ หึหึ
จะให้ปล่อยข้างในหรอ? ” แต่ทาคาสุงิแกล้งทำเป็นฟังผิด พลางขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูแดงก่ำของเด็กหนุ่ม
คามุอิใช้แขนอีกข้างยันกำแพงเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวร่างของเขาที่ถูกอีกฝ่ายรุกรานอยู่ตอนนี้
มืออีกข้างหยุดมือของร่างโปร่งที่กำลังลูบไล้ต้นขาของเขาอย่างเพลิดเพลิน
ยิ่งทาคาสุงิขยับกายเร็วขึ้นเท่าไหร่
ความเจ็บแสบเสียวซ่านก็แล่นเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น
ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออีกฝ่ายเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยืนไม่ไหว
ทาคาสุงิจึงชะลอการขยับกายแล้วถอนออกมา ก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียงนุ่ม สองมือจับเรียวขาขาวแยกออกจากกันและแทรกกายเข้าไปอีกครั้ง
พร้อมกับขยับสานต่อจากเมื่อครู่อย่างรวดเร็วจนร่างบางและเตียงใหญ่ไหวไปตามแรงกระทำของเขา
ใบหน้าหวานสะบัดไปมาด้วยความเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวยกขึ้นกำปลอกหมอน
ทาคาสุงิหยุดการเคลื่อนไหวชั่วครู่
พลางโน้มลงไปจูบริมฝีปากบางสีหวานอีกครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ
ก่อนจะติดเครื่องเดินหน้าอีกครั้ง แม้ว่าจะเปิดแอร์เย็นแค่ไหนก็ดับความร้อนภายในกายของคนทั้งสองไม่ได้
มือเรียวขยุ้มปลอกหมอนจนยับยู่ยี่ไปหมด เพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ
ทำไมร่างกายของเขาถึงยอมคล้อยตามรุ่นพี่ทุกทีเลยนะ เกลียดตัวเองชะมัดเลย
“
ฉันเหนื่อยแล้ว...นายทำให้ฉันหน่อย ” จู่ๆ ทาคาสุงิหยุดขยับกายดื้อๆ
ก่อนจะพลิกตัวให้ร่างบางขึ้นมาข้างบนแทน
“ ไม่เอา ผมทำไม่ได้ ”
“ ถ้านายไม่ยอมทำ
ฉันจะถ่ายรูปนี้ไปให้คนอื่นดูนะ ” ทาคาสุงิแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง จนร่างบางต้องกัดฟันทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย
เขาค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงมาช้าๆ อย่างทุลักทุเล เพราะความไม่เคยชินมาก่อน
ร่างโปร่งนอนมองการกระทำของเด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู
ในที่สุดร่างบางก็เริ่มขยับสะโพกชึ้นลงตามจังหวะเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง
คามุอิเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อทิ้งตัวลงไปรับแก่นกายของอีกฝ่ายตามจังหวะที่ตัวเองควบคุม
ความเสียวซ่านแล่นริ้วทั่วร่างจนสั่นไหว
ตามเนื้อตัวเหงื่อออกชุ่มจนซึมผ่านเสื้อผ้า
จนต้องถอดฮู้ดออกไปให้พ้นตัวด้วยความรำคาญ
ร่างโปร่งยกยิ้มมองอีกฝ่ายอย่างเพลิดเพลิน เริ่มจะเครื่องติดแล้วสินะ?
มือของเขาไม่อยู่นิ่ง คอยลูบไล้สะโพกมนของร่างบางเพื่อช่วยกระตุ้นด้วย
“ ชักช้าจริงๆ
ฉันทำเองดีกว่า ”
ทาคาสุงิเอ่ยออกมาพลางดึงข้อมือของเด็กหนุ่มให้โน้มลงไปเอามือวางบนหน้าท้องของเขา
สองมือจับสะโพกเล็กเอาไว้แล้วขยับสวนขึ้นไปตามจังหวะอย่างเน้นหนักทุกๆ
ครั้งที่กระแทกเข้าไป ทำเอาร่างบางกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดปนเสียวซ่าน
มือเรียววางลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย ปล่อยให้ร่างโปร่งกระแทกกายเข้าใส่เรื่อยๆ
ดวงตากลมโตสีน้ำตาคลอหน่วยด้วยความรู้สึกที่เริ่มพุ่งทะยานจนฉุดไม่อยู่
เขาตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้ เสียงครางกระเส่าของคนทั้งสองผสานกับเสียงผิวเนื้อที่กระทบกันตามจังหวะที่ร่างสูงเป็นคนป้อนเข้าใส่
ทีแรกเขาตั้งใจจะใช้กำลังขืนใจคามุอิให้หลาบจำ
แต่พอได้มีเซ็กส์ด้วยกันแล้วกลับรู้สึกอยากทะนุถนอมร่างบางให้มากกว่านี้
“
อ๊า...รุ่นพี่...ผมไม่ไหวแล้ว ” คามุอิเอ่ยออกมาเมื่อจวนจะถึงจุดหมายปลายทาง
ร่างกายรู้สึกเกร็งไปหมด
พร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่เริ่มมีของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมาจากตรงปลาย
ร่างโปร่งใช้มือรูดรั้งออกมาให้หมด ร่างบางจะได้ไม่ทรมาน
“ ทนอีกนิดนะ
ฉันจะพานายขึ้นสวรรค์ ” ใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นคนที่เคยพยศมีสีหน้าแสดงความสุขสมเช่นกัน
ทาคาสุงิพลิกให้เด็กหนุ่มลงมาอยู่ข้างล่างเหมือนเดิม
ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่เปียกชุ่มใบหน้าหวาน จากนั้นก็ไล่ริมฝีปากลงมามอบจูบดูดดื่มให้กับร่างบาง
พร้อมกับช่วงล่างที่ยังขยับเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาก็พาเด็กหนุ่มไปถึงจุดหมายอย่างพร้อมเพรียงกันและปลดปล่อยของเหลวทั้งหมดเข้าไปในตัวของอีกฝ่าย
ก่อนจะค่อยๆ ถอนกายออกมาช้าๆ
“ พอใจแล้วใช่มั้ย?
ปล่อยผมไปได้แล้ว! ”
คามุอิเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน พร้อมกับมองด้วยแววตาโกรธ
“ ใครบอกว่าฉันจะพอแค่นี้?
โทษฐานที่นายไปกับบันไซ แถมยังปล่อยให้หมอนั่นถึงเนื้อถึงตัวได้ง่ายๆ แบบนี้
รอบเดียวไม่พอหรอก หึหึ ”
“ เลวที่สุด! ผมเคยพูดเอาไว้ไม่มีผิดเลย รุ่นพี่ก็แค่อยากมีเซ็กส์กับผมเท่านั้น! คนเลว! ทำไมผมต้องมาเจอรุ่นพี่ด้วย! ”
“ นายอยากด่าอะไรก็เชิญ
ใช่ มีเซ็กส์กับนายแล้วฉันมีความสุขที่สุด อีกสักรอบดีมั้ย?
แค่นี้ฉันยังไม่อิ่มเลย ” ทาคาสุงิแกล้งทำเป็นหูทวนลม พอเอ่ยจบก็จับร่างบางคว่ำหน้าลงกับหมอน
พร้อมกับยกสะโพกขึ้นมาแล้วสอดใส่เข้าไปอีกครั้งจนสุด
คามุอิแนบหน้ากับหมอนนุ่มเก็บกลั้นเสียงครางเอาไว้
เมื่ออีกฝ่ายรุกรานเข้ามาโดยไม่ได้เล้าโลมแม้แต่น้อย สองขาของเขารองรับแรงกระแทกจากทาคาสุงิจนแทบจะไม่ไหว
เสียงผิวเนื้อกระทบกันตามจังหวะของร่างโปร่ง ใบหน้าหวานซีดเซียวลงมากกว่าเดิม
เพราะเริ่มทนไม่ไหว แต่ทาคาสุงิไม่ทันสังเกต เพราะเด็กหนุ่มคว่ำหน้าลงกับหมอนจึงทำให้มองเห็นหน้าไม่ชัด
สายตาของคามุอิเริ่มเลือนรางด้วยม่านน้ำตา
ทุกครั้งที่ทาคาสุงิขยับกายอยู่ในตัวของเขา
จิตใจก็เผลอคล้อยตามจังหวะการชักนำของอีกฝ่ายทุกที เชาเกลียดที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้
เกลียดที่เผลอใจไปให้คนร้ายกาจอย่างทาคาสุงิย่ำยีเล่นๆ จนในที่สุดร่างโปร่งก็เสร็จกิจอีกครั้งและปล่อยเข้าไปในช่องทางของเด็กหนุ่มจนมันไหลเอ่อล้นออกมาเปื้อนโคนขาขาวเนียน
“ คามุอิ...”
ทาคาสุงิเอ่ยเรียกชื่อเด็กหนุ่มที่จู่ๆ ก็เงียบไปจึงพลิกร่างบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่ขึ้นมาก็เห็นว่าใบหน้าซีดไปหมด
หมดสติไปแล้วหรอ? เขาจัดท่าให้อีกฝ่ายนอนดีๆ
แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมเรือนกายเปลือยเปล่าจากความหนาวเย็น
เขายื่นมือปัดเกลี่ยเส้นผมเปียกชุ่มเหงื่อที่ปรกใบหน้าหวานออกไป
ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน
จากนั้นก็ไล่มาที่แก้มใสและบรรจงจูบที่ริมฝีปากอีกครั้ง เขาเองก็รู้สึกเพลียเหมือนกันจึงเข้าไปนอนด้วย
พร้อมกับดึงร่างบางเข้ามากอดในอ้อมแขนแกร่ง
จนร่างกายของทั้งสองคนแนบนิดราวกับหลอมละลายเป็นคนเดียวกัน ฉันชอบนายจริงๆ นะ
คามุอิ
ทางด้านชินอิจิที่กลับมาที่ห้องทำงานก็เปิดลิ้นชักออกมาและหยิบกระเป๋าใส่บัตรสำคัญขึ้นมาเปิดดู
บัตรประชาชนของเขาหายไปไหนกัน? หรือว่าชินสุเกะจะเอาไป?
เพราะวันนี้เจ้าตัวดีออกไปข้างนอกบ้าน แต่บัตรเครดิตก็อยู่ครบนี่นา
แล้วจะเอาบัตรประชาชนของเขาไปทำไมกัน? พอลองโทรหาก็ไม่ยอมรับสายอีกด้วย
หวังว่าคงไม่เอาไปทำอะไรเสียหายหรอกนะ
ชินอิจิโทรหาเพื่อนของลูกชายทุกคนและถามเกี่ยวกับเรื่องบัตรประชาชน
แต่เด็กหนุ่มทั้งสามไม่ทราบอะไรเลย เขาจึงไม่ได้ถามต่อ
หลังจากคาซึระวางสายจากพ่อของทาคาสุงิแล้วก็นั่งใช้ความคิดไปพลางๆ
มันจะเอาบัตรประชาชนของพ่อไปทำอะไรวะ?
ถ้าจะเอารถพ่อมาขับก็น่าจะเอาแค่ใบขับขี่ก็พอนี่นา แต่จู่ๆ ก็มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา
แต่เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ?
บัตรประชาชนเอาไว้ใช้จองโรงแรมได้นี่นา! หลังจากพาตัวคามุอิมาจากบันไซแล้ว
ทาคาสุงิต้องพาไปเข้าโรงแรมแน่ๆ เลย แต่หมอนั่นอายุยังไม่ถึง 20 ปี ทางโรงแรมคงไม่อนุญาตให้เข้าพักจึงต้องใช้บัตรประชาชนของผู้ใหญ่
ไอ้หมอนี่ร้ายกาจจริงๆ คงจะวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วสินะ? ถึงได้ขโมยบัตรประชาชนของพ่อมาใช้
To Be Con
ยังงงงงง ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ น้องมุยยังเจออีกเยอะ หึหึ (น้องมุย - ฉันอยากฆ่าเธอจริงๆ -*- )
ตอนหน้ามีอีกนะคะ นี่แค่เบาะๆ (หราาาาา) แล้วติดตามกันต่อนะคะ ว่าน้องจะลุกมาเดินได้มั้ย XD
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น