2559-02-10

[Gintama] Beauty Beast E.P.18 [FULL]

มาตคามสัญญาแล้วค่ะ ตอนนี้ 20+ XD อาจมีฉากและคำพูดรุนแรงไม่เหมาะสม 

แต่ที่ลงวันนี้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นนะคะ เหลืออีกครึ่งต่อคอนหน้า กั๊กไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น //โดนตบ 

[Gintama] Beauty Beast E.P.18
Pair :Takasugi x Kamui
Rate : PG-13 (น่าจะ)
Writer :Satouyui

คามุอินั่งมองหน้าจอมือถืออยู่นานสองนาน หลังจากอ่านข้อความต่างๆ ที่เขาเคยคุยเล่นกับทาคาสุงิมาตั้งแต่ครั้งแรก แค่กดลบทิ้งไปยังทำไม่ได้ ทำไมถึงลบไม่ได้กันนะ? จะเก็บเอาไว้ให้รกเครื่องทำไม? ในเมื่อระหว่างเขากับรุ่นพี่มันจบไปแล้ว เขาไม่น่าปล่อยให้เรื่องราวของรุ่นพี่มามีอิทธิพลกับเขามากมายขนาดนี้เลย ทำไมถึงยังลืมใบหน้าและน้ำเสียงไม่ได้สักที?

เอาเถอะ นายจะไปสนิทกับใครก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่นี่ ขอให้สนุกกับเพื่อนใหม่ละกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาทำลายความเงียบ คามุอิรีบปาดน้ำตาที่หางตาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้อีกฝ่าย คางุระนั่นเอง เด็กสาวเดินตามเข้ามาพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พี่ชายบนเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองนิ่งเขม็ง

“ มีอะไรหรอคางุระ? ทำไมจ้องพี่แบบนี้ล่ะ? ”

“ ทำไมช่วงนี้อาเฮียชินไม่มาเที่ยวบ้านเราล่ะ? ”

“ เค้าคงไม่มาแล้วล่ะ ” คามุอิเอ่ยตอบน้องสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ชื่อของรุ่นพี่ทำให้เขารู้สึกเหงาแปลกๆ

“ อาเฮียทะเลาะกับอาเฮียชินหรอ? ”

“ เปล่าสักหน่อย ก็ตอนนี้เค้ามีคู่หมั้นแล้วนี่ เค้าก็ต้องเอาเวลาไปสนใจเธอสิ ”

“ อั้วไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเลย ”

“ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ? เค้าไปทำอะไรให้คางุระไม่พอใจหรอ? ”

“ ก็เค้ามาแย่งอาเฮียชินไปจากอาเฮียของอั้วนี่นา ”

“ บ้าน่า แย่งอะไรกัน? ”

“ ทั้งๆ ที่อาเฮียชินสัญญากับอั้วเอาไว้อย่างดีแล้วว่าจะไม่ทอดทิ้งอาเฮีย แต่ทำไม...”

“ อะไรกัน? สัญญากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ”

“ ตั้งแต่อาเฮียอยู่โรงพยาบาลแล้วล่ะ ตอนนั้นอาเฮียยังไม่รู้สึกตัว อั้วบอกอาเฮียชินว่าอย่าทอดทิ้งอาเฮียไปไหน ”

“ คางุระจะไปเชื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้นทำไม? คำพูดที่ออกมาจากปากเค้าน่ะไม่มีความจริงเลยสักนิด...ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ พี่ก็จะเข้านอนแล้ว ” คามุอิเอ่ยพลางลูบเรือนผมสีส้มของน้องสาวด้วยความรู้สึกเห็นใจที่คางุระไปหลงเชื่อคำพูดสวยหรูของรุ่นพี่ สักพักคางุระก็ขอตัวกลับไปนอน เด็กหนุ่มปิดประตูแล้วกลับมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า

ทางด้านทาคาสุงิที่นั่งมองมือถือของตัวเองเช่นกัน ป่านนี้นายจะเข้านอนรึยังนะ? พอได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายหลังจากได้ยินคาซึระพูดออกไปตามคำขอของเขาแล้วก็อดรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้ รอฉันก่อนนะ คามุอิ สักวันหนึ่งฉันจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของฉันให้นายแต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่ได้รู้จักนาย ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี ฉันมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ นาย

เวลาสายๆ ของวันเสาร์

“ วันหยุดแท้ๆ จะออกไปไหนอีกล่ะ? ” ทาคาสุงิแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน จนชินอิจิเห็นแล้วก็รีบเดินเข้ามาทัก

“ ผมมีนัด ” ทาคาสุงิเอ่ยตอบสั้นๆ ขณะกำลังนั่งใส่รองเท้าที่ชานบ้าน  

“ แล้วจะกลับบ้านกี่โมง? ”

“ ไม่รู้เหมือนกัน ”

“ ยังไงก็หัดรับสายด้วยล่ะ มือถือมีไว้โทรติดต่อกัน ไม่ใช่เอาไว้ประดับกระเป๋า ”

“ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมไม่ได้ไปทำอะไรเสียหายสักหน่อย ไปล่ะ ” ทาคาสุงิเอ่ยจบก็เดินไปที่รถเก๋งสีดำที่ถูกขัดจนเงาวับแล้วขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ชินอิจิถอนหายใจยาวออกมา ขับรถเร็วแข่งกับจรวดแบบนี้จะรีบไปไหนของมัน?

ทาคาสุงิแวะรับเพื่อนทั้งสามที่หน้าบ้าน ก่อนจะขับเข้าไปในเมือง ก่อนจะยื่นมือถือของเขาให้คาซึระคอยเช็ค GPRS ของคามุอิตลอดเวลา นายหนีฉันไม่ได้หรอก ฉันจะตามไปขัดขวางเดทของนาย กล้าดียังไงถึงได้รับไปคำเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น

“ ตามติดเค้ายังกับคุณพ่อหวงลูกสาวเลยนะแก ” กินโทกิที่นั่งอยู่เบาะหลังกับซาคาโมโตะเอ่ยแกมประชดขึ้นมา

“ ถ้าแกไม่อยากไปก็ลงรถซะเดี๋ยวนี้เลยสิ ” ทาคาสุงิเอ่ยตอบผ่านกระจกมองหลังด้วยน้ำเสียงนิ่งขณะกำลังรอสัญญาณไฟ

“ แหม ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว เพื่อนก็ต้องช่วยกันสิวะ ”

“ ซึระ ตอนนี้คามุอิอยู่ไหนแล้ว? ” ซาคาโมโตะยื่นหน้าเข้ามาเอ่ยถามเพื่อนหน้าสวยที่กำลังจ้องหน้าจอมือถือไม่วางตา

“ กำลังจะตรงไปที่ชิบูย่า เอ๊ะ? ” จู่ๆ คาซึระก็อุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจ ทำให้เพื่อนทั้งสามหันมามอง

“ มีอะไรซึระ? ”

“ ดูเหมือนจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่สวนสนุกนะ ”

“ หมอนั่นต้องคิดว่าพวกเราสะกดรอยตามแน่ๆ เลยเปลี่ยนเป้าหมายกะทันหัน ”

“ สวนสนุกใช่มั้ย? ” ทาคาสุงิเอ่ยถามพร้อมกับหักพวงมาลัยไปอีกทางทันที ทำเอาเพื่อนทั้งสามแทบพุ่งหน้าทิ่ม จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาก็ไม่บอกกันก่อนเลยนะว๊อย เกิดหน้าตาพวกกรูเสียโฉมหมดหล่อขึ้นมาจะทำไงวะไอ้บ้าหึงหน้ามืดนี่!

“ เอ๋? ไม่ไปดูหนังแล้วหรอครับ? ” คามุอิที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลังเอ่ยถามขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนทิศทางไปกะทันหัน

“ โทษทีนะ วันนี้หนังไม่ค่อยสนุกหรอก ไปเที่ยวสวนสนุกกันดีกว่า ” บันไซหันมาเอ่ยตอบร่างบางที่เสียหลักจนต้องเกาะเอวของเขาแน่น เมื่อจู่ๆ เขาเปลี่ยนเป้าหมายที่จะไป

“ เอางั้นก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้ ” คามุอิตอบอย่างไม่เรื่องมาก ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ไม่ต้องเจอรุ่นพี่ก็พอแล้ว

ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงสวนสนุกในเวลาต่อมา บันไซเอามอเตอร์ไซค์ไปจอด ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในพร้อมเด็กหนุ่ม เขาแอบมองการแต่งกายของอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมา วันนี้นายแต่งตัวได้น่ารักมากเลยนะ เสื้อมีฮู้ดสีฟ้าตัดกับสีขาวเข้ากับเด็กหนุ่มอย่างลงตัว แถมกางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป และรองเท้าผ้าใบสีฟ้า ดูยังไงก็เหมือนเด็กผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวห้าวๆ ไม่มีผิด

ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับทาคาสุงิและพรรคพวกอีกสามคนแอบเดินตามไปติดๆ สายตาคมของเขาจดจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของร่างบางราวกับไม่ปล่อยให้คลาดสายตาไปไหน ไม่ว่าคามุอิกับบันไซจะเดินไปที่ไหน ทาคาสุงิก็ตามไปทุกที่ พอเห็นทั้งสองหยุดซื้อไอศครีม ทั้งสี่ก็ต้องหาที่หลบแถวนั้นให้พ้นสายตาของคนทั้งคู่ จนโดนคนอื่นที่มาเที่ยวสวนสนุกมองด้วยสายตาสงสัย

“ แหม ยังกับมาเดทกันเลยแฮะ น่าอิจฉาจังเลยน๊า ”

“ นั่นสิ คามุอิคุงแต่งตัวน่ารักจริง ดูเผินๆ นึกว่าเด็กผู้หญิงเลยนะเนี่ย ”

“ ถ้าพวกแกสองคนอิจฉาก็ไปเดทกันเองซะสิ ”

“ หึ้ย ไม่เอาหรอกเว้ย พูดจาน่าขนลุก ถ้าให้เดทกับไอ้หงอกนี่ ฉันขอเอาหัวโขกเสาไฟฟ้าตายดีกว่า ”

“ หราาาาา คิดว่าฉันอยากเดทกับแกมากรึไงห๊ะ? ไอ้หัวหมูหยองค้างคืนนี่ ”

“ ชู่ว์ พวกแกสองคนหยุดทะเลาะกันสักที เดี๋ยวสองคนนั่นก็รู้ตัวหรอก ”  

“ แล้วพวกเราสี่คนเดินสะกดรอยตามต้อยๆ คงจะไม่รู้ตัวหรอกนะ ” กินโทกิเอ่ยประชดเพื่อนหน้าสวย นี่มันเวรกรรมอะไรวะเนี่ย? แก๊งอสุราสะกดรอยตามเด็กปี 1 เนี่ยนะ? รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น นี่ถ้าไม่ช่วยเพื่อนเขาก็ไม่ยอมทำแบบนี้หรอก

“ นั่นสิ พวกเราต้องทำตัวให้กลมกลืนหน่อย ” คาซึระยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเดินไปซื้อหมวกแฟนซีหูมิกกี้มาสี่อัน

“ แกคิดว่าฉันจะใส่หมวกปัญญาอ่อนแบบนี้หรอ? ” ทาคาสุงิเอ่ยถามพลางขมวดคิ้วมองหมวกในมืออีกฝ่าย

“ แกนี่มันหยาบคาย พูดจาใจร้ายมากเลยนะ ดูซิ ใครๆ ก็ใส่กันทั้งนั้น ” คาซึระเอ่ยกับเพื่อนหน้าคมด้วยสีหน้ามุ่ย

“ ฉันว่าก็น่ารักดีออกนะ ” ซาคาโมโตะเอ่ยพลางหยิบหมวกมาใส่บ้าง อ่า เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

“ แกก็ใส่ด้วยสิ จะได้ไม่แปลกแยก ” กินโทกิเอ่ยพลางหยิบหมวกมาใส่ให้เพื่อนหน้าคมบ้าง ก่อนจะหัวเราะชอบใจ พวกเขาทั้งสี่หยอกล้อกันเหมือนตอนเด็กๆ ทาคาสุงิจำใจต้องใส่หมวกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อไม่ให้เป้าหมายจำหน้าพวกเขาได้

คามุอิกับบันไซพากันเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างด้วยความสนุกสนาน อย่างน้อยก็พอจะทำให้ลืมเรื่องที่อยากลืมไปบ้าง ทั้งสองมาหยุดพักเหนื่อยที่ม้านั่งยาว บันไซเดินไปซื้อเซตข้าวกล่องมาเผื่อเด็กหนุ่มด้วย ทั้งสองนั่งทานมื้อกลางวันอย่างเอร็ดอร่อย

“ เป็นไงบ้าง? สนุกรึเปล่า? ” บันไซหันไปเอ่ยถามอีกฝ่ายที่กำลังกินข้าวอย่างหิวโหยจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

“ สนุกมากเลย ไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ แบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณรุ่นพี่ที่พาผมมา ” คามุอิเอ่ยพลางยิ้มกว้างอย่างกับเด็กๆ

“ ถ้านายชอบ ฉันก็ดีใจ ” บันไซเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม พอได้เห็นรอยยิ้มของเด็กคนนี้เขาก็ยิ่งหัวใจเต้นแรง

จู่ๆ สายตาของบันไซก็เห็นคราบซอสที่เลอะริมฝีปากของร่างบาง จึงยื่นมือออกไปจะเช็ดออกให้ ทาคาสุงิทำท่าจะเข้าไปแยกทั้งสองออกจากกัน แต่คาซึระรีบดึงเอาไว้ก่อน พลางส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงเตือนว่าอย่าเพิ่งใจร้อนวู่วามทำอะไรลงไป

“ คราบซอสเลอะแหนะ ” แต่บันไซยังไม่ทันได้เช็ดออกให้ เด็กหนุ่มก็ผงะถอยใบหน้าออกไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ

“ อ๊ะ จริงหรอครับ? ผมนี่ซุ่มซ่าม น่าอายจัง ”

“ ไม่หรอก แบบนี้ก็น่ารักดีนะ ”

“ คราบซอสเลอะปากนี่มันน่ารักตรงไหนหรอครับ? ”

“ หึๆ ก็ดูเป็นธรรมชาติดี เหมือนเด็กๆ เลย ”

“ แต่ผมไม่อยากเป็นเด็กนี่นา...ออกหมดแล้วรึยัง? ” คามุอิเอ่ยถามพลางใช้หลังมือเช็ดออก แต่ก็ทำให้เปื้อนแก้มอีก

“ หึหึ เลอะมากกว่าเดิมอีก นายมองไม่เห็นหรอก มานี่ ฉันจะเช็ดออกให้ ” บันไซเอ่ยพลางขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม ก่อนจะยื่นมือออกไปเช็ดคราบซอสที่เลอะแก้มใสของอีกฝ่าย ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งมองเห็นความน่ารักของคามุอิได้อย่างชัดเจน

ผิวหน้าที่นุ่มเนียนจนไม่คิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย ทำให้ให้เขารู้สึกใจเต้นขึ้นมาอีกแล้ว ดวงตาสีฟ้ากลมโตที่มองเขาอย่างงุนงง เหมือนเด็กน้อยใสซื่อ ที่สำคัญริมฝีปากบางได้รูปสีชมพูอ่อนที่อยู่ตรงหน้านั้นทำให้เขาแทบจะอดใจเอาไว้ไม่ได้ บันไซโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มเรื่อยๆ จนอีกเพียงแค่คืบก็จะแนบชิดกันแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็ถูกกระชากไหล่จากด้านหลังอย่างแรง

พอเขาหันไปมองก็ถูกทาคาสุงิชกเข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนล้มลงบนพื้น บันไซยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ไหลจากมุมปาก คามุอิรีบวิ่งเข้ามาดูอาการของบันไซ แต่ถูกทาคาสุงิที่ไวกว่าคว้าแขนเอาไว้แล้วดึงให้ไปยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล

“ รุ่นพี่! ปล่อยผมนะ! เป็นหมาบ้ารึไง!? ” คามุอิก่นด่าอย่างนึกโมโห พลางพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากอีกฝ่ายให้ได้

“ ปล่อยให้นายไปอยู่กับหมอนั่นน่ะหรอ? ไม่มีทาง นายต้องไปกับฉัน! ส่วนแก ฉันจะมาคิดบัญฃีทีหลัง! ” ทาคาสุงิบีบข้อมือเด็กหนุ่มแน่นและแรงกว่าเดิม ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบันไซด้วยแววตาเอาเรื่อง พอเอ่ยจบก็ฉุดร่างบางให้ไปด้วย

“ คามุอิ! ทาคาสุงิ! ปล่อยคามุอิเดี๋ยวนี้นะ! ” บันไซลุกขึ้นแล้วทำท่าจะตามไป แต่ถูกกินโทกิกับซาคาโมโตะมาขวาง

“ ฉันว่านายอย่าตามไปเลยดีกว่า ถึงตามไปก็ช่วยอะไรคามุอิไม่ได้อยู่ดี ถ้าหมอนั่นโกรธมากล่ะก็ ไม่มีใครหยุดเค้าได้หรอก ” คาซึระเอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างรู้สึกเห็นใจ แต่ยังไงเขาก็ต้องเลือกช่วยเพื่อนอยู่ดี

“ เพื่อนของนายจะทำอะไรคามุอิ!? ”

“ เฮ้ย ไม่ต้องเป็นห่วงน่า ทาคาสุงิไม่ฆ่าสุดที่รักของมันได้ลงคอหรอก คนนี้มันรักจะตาย ” ซาคาโมโตะเอ่ยด้วยรอยยิ้มกวนๆ พลางตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ ราวกับจะช่วยปลอบใจ

“ นายน่ะตัดใจจากคามุอิซะเถอะ นายมาทีหลัง มันยากที่จะเข้ามาแทรก ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ...อ่ะนี่ ฉันให้เป็นที่ระลึกละกัน ” กินโทกิเอ่ยจบก็วางหมวกที่ทาคาสุงิทิ้งเอาไว้ให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น บันไซกำหมัดชกต้นไม้แถวนั้นอย่างแรงจนมือของเขามีเลือดซึมอออกมาด้วยความเจ็บใจ เขารู้สึกโทษตัวเองที่มารู้จักคามุอิช้าเกินไป

ทาคาสุงิพาคามุอิขึ้นรถแล้วเหยียบคันเร่งจนมิดและตรงเข้าไปจอดในสถานที่จอดรถของโรงแรมชั้นดีแห่งหนึ่ง เขาลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูอีกฝั่งและดึงร่างบางลงมา เด็กหนุ่มพยายามใช้มืออีกข้างแกะมือที่เหนียวแน่นของอีกฝ่ายออกไป

“ นายก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ จะขัดขืนให้เสียแรงเปล่าทำไม? ”

“ รุ่นพี่พาผมมาที่นี่ทำไม? ”

“ นายไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่? ใสซื่ออย่างนี้ ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมอนั่นถึงได้หลอกจูบง่ายๆ ”

“ อย่าเหมารวมว่าคนอื่นต้องเหมือนตัวเองสิ!

“ หึ นายเคยบอกว่าฉันเลวใช่มั้ย? วันนี้ฉันจะทำให้นายเห็นว่าเลวที่สุดมันเป็นยังไง ” ทาคาสุงิยกยิ้มมุมปากก่อนจะฉุดกระชากร่างบางให้ตามเข้าไปในโรงแรม เขาเดินมาที่เคาน์เตอร์เพื่อจองห้อง โดยโอบเอวเด็กหนุ่มเอาไว้แน่น

“ จองห้องพักแบบไหนดีคะ? ”         
   
“ ขอห้องเตียงเดี่ยว ”

“ ไม่ทราบว่าจะพักกี่คืนคะ? ”

“ คืนเดียว ”     
      
“ รบกวนขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ ” พนักงานสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม ทาคาสุงิเปิดกระเป๋าหยิบบัตรประชาชนให้พนักงาน หญิงสาวรับบัตรประชาชนจากลูกค้าพลางลอบพิจารณารูปถ่ายในบัตรสลับกับตัวจริงอย่างไม่ให้รู้สึกว่าเสียมารยาท เพราะภาพในบัตรดูมีอายุ แต่เค้าโครงหน้าตาเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียว แถมยังแต่งกายด้วยเชิ้ตสีแดงเข้มดูดีอีกด้วย

“ มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ? ”

“ อ๋อ เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร รอสักครู่นะคะ ดิฉันขอเวลาคีย์ข้อมูลของคุณลูกค้า….เรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ค่ะกุญแจห้อง รบกวนคุณลูกค้าเช็คเอ้าท์ในวันพรุ่งนี้จนถึงเวลา 11 นาฬิกานะคะ ” พนักงานสาวเอ่ยพลางยื่นบัตรประชาชนกับกุญแจห้องให้

“ ขอบใจ ” ทาคาสุงิรับบัตรมาใส่กระเป๋า พร้อมกับหยิบกุญแจห้องมาด้วย และพาเด็กหนุ่มเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน

“ นี่ๆ ผู้ชายคนนั้นน่ะ ดูดีจังเลยเนาะ แต่ไม่อยากเชื่อเลยว่าอายุ 40 แล้ว ” พอเห็นลูกค้าไปแล้วหญิงสาวก็เอ่ยขึ้นมา

“ หา?? จริงหรอ? ทำไมหน้าเด็กจังเลยล่ะ? ”      

“ จริงสิ เมื่อกี้ฉันแอบคำนวณอายุของเค้าจากปีเกิดในบัตรดูน่ะ สงสัยเค้าจะดูแลตัวเองดี ”

“ กินเด็กด้วยรึเปล่า? หึๆ คนที่พามาด้วยยังดูเหมือนเด็กม.ปลายอยู่เลยนะ ”   
             
“ น่าอิจฉาเด็กคนนั้นจังเลยเนาะ มีแฟนหล่อขนาดนี้ เด็กสาวสมัยนี้ก็มีรสนิยมชอบผู้ชายอายุมากกว่ากันแล้วหรอเนี่ย? ”

“ นี่พวกเธอเม้าท์มอยอะไรกัน? ไม่ทำงานแล้วใช่มั้ย? ” ผู้จัดการสาวใหญ่เดินผ่านมาตรวจงานก็เห็นกลุ่มพนักงานสาวจับกลุ่มคุยกัน แถมหัวเราะคิกคักชอบใจจึงเดินเข้ามาถาม พวกหล่อนจึงรีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

พอมาถึงห้องพักแล้วทาคาสุงิก็มืออีกข้างไขกุญแจเข้าไป อีกข้างก็ยังโอบร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้เขาก็ดึงเด็กหนุ่มให้เข้ามาแล้วจัดการล็อคประตูเอาไว้ทันที คามุอิเขยิบถอยหนีอีกฝ่ายจนแผ่นหลังชิดกับกำแพงห้อง

“ กลัวหรอ? ทำเหมือนไม่เคยไปได้ หึหึ ฉันจะลงโทษที่นายไปกับผู้ชายคนอื่น ” ทาคาสุงิยันแขนข้างหนึ่งบนกำแพง มืออีกข้างจับใบหน้าหวานให้หันมารับจูบร้อนแรงจากเขา เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นด้วยความรู้สึกอึดอัดที่ริมฝีปากถูกบดขยี้ลงมา

มือเรียวพยายามผลักอกอีกฝ่ายออกไป แต่ก็ยิ่งทำให้ถูกร่างโปร่งรุกจูบอย่างหนักหน่วงกว่าเดิม มืออีกข้างของทาคาสุงิเลื่อนลงมารั้งเอวบางให้แนบชิด ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาจูบที่ซอกคอขาวของร่างบางจนเป็นรอยแดงทับรอยเดิม ราวกับจะเน้นย้ำความเป็นเจ้าของ ขณะที่ริมฝีปากกำลังระดมจูบไปทั่วซอกคออย่างหิวกระหายอยู่นั้นก็เลื่อนมือลงไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของอีกฝ่าย ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงของเด็กหนุ่ม เพื่อสัมผัสส่วนอ่อนไหวที่ถูกห่อหุ้มอยู่ด้านใน

“ อ๊ะรุ่นพี่ปล่อยนะเอามือออกไป….” คามุอิเอ่ยออกมาอย่างลำบาก เมื่อส่วนอ่อนไหวถูกอีกฝ่ายลูบไล้อยู่ข้างใน

“ หึหึ ปล่อยให้โง่สิแน่ใจหรอว่าอยากให้ปล่อย” ทาคาสุงิเอ่ยกระซิบข้างใบหูที่แดงก่ำของเด็กหนุ่มอย่างพึงพอใจ พร้อมกับเพิ่มแรงเข้าไปจับส่วนอ่อนไหวของร่างบางให้เต็มมือมากกว่าเดิม จนเรียวขาสั่นไหวเบาๆ แทบจะยืนไม่อยู่

ทาคาสุงิถอดกางเกงยีนส์ตัวเล็กของร่างบางลงมาจนถึงเข่าพร้อมกับชั้นใน ก่อนจะใช้ปากกับส่วนอ่อนไหวที่เริ่มตื่นตัวของอีกฝ่ายอย่างเป็นจังหวะตามที่เขาควบคุม คามุอิหลับตาลงทันที เพราะไม่อยากเห็นภาพน่าอับอายตรงหน้า ท้องไส้ของเขารู้สึกปั่นป่วนไปหมด เมื่อร่างโปร่งขยับปากเร็วขึ้นเรื่อยๆ มือเรียววางลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่ายเพื่อยึดเอาไว้ให้ยืนอยู่ได้

ร่างบางส่งเสียงครางในลำคอออกมาเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปาก และใช้มือขยับรูดรั้งจนในที่สุดก็ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเต็มมือของร่างโปร่ง ทาคาสุงิยกยิ้มอย่างพึงพอใจ และบังคับให้เด็กหนุ่มเลียน้ำรักที่เลอะมือของเขาออกให้หมด

“ เลียออกซะ ” ทาคาสุงิยื่นมือที่เลอะไปด้วยของเหลวสีขาวเหมือนน้ำนมมาตรงหน้าเด็กหนุ่มที่หมดแรงนั่งกองที่พื้นห้อง

“ ไม่ ” คามุอิเบือนหน้าหนีไปอีกทางด้วยความโกรธปนอับอาย

“ จะทำหรือไม่ทำ? ฉันให้นายเลือกระหว่างเลียของตัวเองหรือว่าเลียของฉัน? ” ทาคาสุงินั่งชันเข่าตรงหน้าร่างบาง พร้อมยื่นข้อเสนอที่ทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดงระเรื่อ ในที่สุดเด็กหนุ่มก็เลือกที่จะทำความสะอาดน้ำรักของตัวเองที่เปื้อนมืออีกฝ่าย

ลิ้นอุ่นชื้นของคามุอิค่อยๆ เลียของเหลวสีขาวขุ่นออกทีละนิด ทาคาสุงิมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกชอบใจ ช่างเป็นภาพที่งดงามอะไรอย่างนี้ จนความรู้สึกในใจของเขาทวีรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ว่าคามุอิยังเด็กเกินไปจึงให้เลียแค่นิ้วของเขาก็พอ เมื่อร่างบางเลียออกจนเกือบจะหมดแล้ว เขาก็ลุกขึ้นถอดกางเกงของตัวเองออกจนหมดเช่นกัน  ก่อนจะพยุงอีกฝ่ายขึ้นมา

“ ผมเกลียดรุ่นพี่ไปตายซะ! ” คามุอิก่นด่าอีกฝ่ายออกมาด้วยความเจ็บปวดในใจ จนน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง

“ หึหึ ก่อนที่จะตายฉันขอขึ้นสวรรค์กับนายก่อนละกัน ” ทาคาสุงิจับร่างบางหันหลังแล้วผลักไปจนใบหน้าชิดกำแพง ก่อนจะแทรกกายเข้าไปในช่องทางของอีกฝ่ายทีเดียวจนสุด ร่างบางสะดุ้งเฮือกที่อีกฝ่ายรุกรานเข้ามาโดยไม่รอให้ทันตั้งตัว

เขาเริ่มขยับกายทีละนิด แต่ก็เรียกเสียงครางหวานจากเด็กหนุ่มเป็นระยะ เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ จนแผงอกชิดแผ่นหลังของร่างบาง พลางก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอของอีกฝ่ายไปด้วย ในขณะที่ช่วงล่างยังขยับเข้าออกเป็นจังหวะอย่างไม่รีบร้อน

“ อื้ออรุ่นพี่ปล่อย” คามุอิส่งเสียงครางในลำคอพร้อมกับร้องห้ามอีกฝ่ายที่เอื้อมมือมาจับส่วนอ่อนไหวของเขา

“ หึหึ จะให้ปล่อยข้างในหรอ? ” แต่ทาคาสุงิแกล้งทำเป็นฟังผิด พลางขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูแดงก่ำของเด็กหนุ่ม

คามุอิใช้แขนอีกข้างยันกำแพงเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวร่างของเขาที่ถูกอีกฝ่ายรุกรานอยู่ตอนนี้ มืออีกข้างหยุดมือของร่างโปร่งที่กำลังลูบไล้ต้นขาของเขาอย่างเพลิดเพลิน ยิ่งทาคาสุงิขยับกายเร็วขึ้นเท่าไหร่ ความเจ็บแสบเสียวซ่านก็แล่นเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออีกฝ่ายเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง

เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยืนไม่ไหว ทาคาสุงิจึงชะลอการขยับกายแล้วถอนออกมา ก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียงนุ่ม สองมือจับเรียวขาขาวแยกออกจากกันและแทรกกายเข้าไปอีกครั้ง พร้อมกับขยับสานต่อจากเมื่อครู่อย่างรวดเร็วจนร่างบางและเตียงใหญ่ไหวไปตามแรงกระทำของเขา ใบหน้าหวานสะบัดไปมาด้วยความเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวยกขึ้นกำปลอกหมอน

ทาคาสุงิหยุดการเคลื่อนไหวชั่วครู่ พลางโน้มลงไปจูบริมฝีปากบางสีหวานอีกครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ ก่อนจะติดเครื่องเดินหน้าอีกครั้ง แม้ว่าจะเปิดแอร์เย็นแค่ไหนก็ดับความร้อนภายในกายของคนทั้งสองไม่ได้ มือเรียวขยุ้มปลอกหมอนจนยับยู่ยี่ไปหมด เพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ ทำไมร่างกายของเขาถึงยอมคล้อยตามรุ่นพี่ทุกทีเลยนะ เกลียดตัวเองชะมัดเลย

“ ฉันเหนื่อยแล้ว...นายทำให้ฉันหน่อย ” จู่ๆ ทาคาสุงิหยุดขยับกายดื้อๆ ก่อนจะพลิกตัวให้ร่างบางขึ้นมาข้างบนแทน

“ ไม่เอา ผมทำไม่ได้ ”

“ ถ้านายไม่ยอมทำ ฉันจะถ่ายรูปนี้ไปให้คนอื่นดูนะ ” ทาคาสุงิแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง จนร่างบางต้องกัดฟันทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย เขาค่อยๆ ยกสะโพกขึ้นแล้วกดลงมาช้าๆ อย่างทุลักทุเล เพราะความไม่เคยชินมาก่อน ร่างโปร่งนอนมองการกระทำของเด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู ในที่สุดร่างบางก็เริ่มขยับสะโพกชึ้นลงตามจังหวะเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง

คามุอิเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อทิ้งตัวลงไปรับแก่นกายของอีกฝ่ายตามจังหวะที่ตัวเองควบคุม ความเสียวซ่านแล่นริ้วทั่วร่างจนสั่นไหว ตามเนื้อตัวเหงื่อออกชุ่มจนซึมผ่านเสื้อผ้า จนต้องถอดฮู้ดออกไปให้พ้นตัวด้วยความรำคาญ ร่างโปร่งยกยิ้มมองอีกฝ่ายอย่างเพลิดเพลิน เริ่มจะเครื่องติดแล้วสินะ? มือของเขาไม่อยู่นิ่ง คอยลูบไล้สะโพกมนของร่างบางเพื่อช่วยกระตุ้นด้วย

“ ชักช้าจริงๆ ฉันทำเองดีกว่า ” ทาคาสุงิเอ่ยออกมาพลางดึงข้อมือของเด็กหนุ่มให้โน้มลงไปเอามือวางบนหน้าท้องของเขา
สองมือจับสะโพกเล็กเอาไว้แล้วขยับสวนขึ้นไปตามจังหวะอย่างเน้นหนักทุกๆ ครั้งที่กระแทกเข้าไป ทำเอาร่างบางกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดปนเสียวซ่าน มือเรียววางลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย ปล่อยให้ร่างโปร่งกระแทกกายเข้าใส่เรื่อยๆ

ดวงตากลมโตสีน้ำตาคลอหน่วยด้วยความรู้สึกที่เริ่มพุ่งทะยานจนฉุดไม่อยู่ เขาตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้ เสียงครางกระเส่าของคนทั้งสองผสานกับเสียงผิวเนื้อที่กระทบกันตามจังหวะที่ร่างสูงเป็นคนป้อนเข้าใส่ ทีแรกเขาตั้งใจจะใช้กำลังขืนใจคามุอิให้หลาบจำ แต่พอได้มีเซ็กส์ด้วยกันแล้วกลับรู้สึกอยากทะนุถนอมร่างบางให้มากกว่านี้

“ อ๊า...รุ่นพี่...ผมไม่ไหวแล้ว ” คามุอิเอ่ยออกมาเมื่อจวนจะถึงจุดหมายปลายทาง ร่างกายรู้สึกเกร็งไปหมด พร้อมกับส่วนอ่อนไหวที่เริ่มมีของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมาจากตรงปลาย ร่างโปร่งใช้มือรูดรั้งออกมาให้หมด ร่างบางจะได้ไม่ทรมาน

“ ทนอีกนิดนะ ฉันจะพานายขึ้นสวรรค์ ” ใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นคนที่เคยพยศมีสีหน้าแสดงความสุขสมเช่นกัน

ทาคาสุงิพลิกให้เด็กหนุ่มลงมาอยู่ข้างล่างเหมือนเดิม ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่เปียกชุ่มใบหน้าหวาน จากนั้นก็ไล่ริมฝีปากลงมามอบจูบดูดดื่มให้กับร่างบาง พร้อมกับช่วงล่างที่ยังขยับเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเขาก็พาเด็กหนุ่มไปถึงจุดหมายอย่างพร้อมเพรียงกันและปลดปล่อยของเหลวทั้งหมดเข้าไปในตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ ถอนกายออกมาช้าๆ

“ พอใจแล้วใช่มั้ย? ปล่อยผมไปได้แล้ว! ” คามุอิเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน พร้อมกับมองด้วยแววตาโกรธ

“ ใครบอกว่าฉันจะพอแค่นี้? โทษฐานที่นายไปกับบันไซ แถมยังปล่อยให้หมอนั่นถึงเนื้อถึงตัวได้ง่ายๆ แบบนี้ รอบเดียวไม่พอหรอก หึหึ ”

“ เลวที่สุด! ผมเคยพูดเอาไว้ไม่มีผิดเลย รุ่นพี่ก็แค่อยากมีเซ็กส์กับผมเท่านั้น! คนเลว! ทำไมผมต้องมาเจอรุ่นพี่ด้วย!

“ นายอยากด่าอะไรก็เชิญ ใช่ มีเซ็กส์กับนายแล้วฉันมีความสุขที่สุด อีกสักรอบดีมั้ย? แค่นี้ฉันยังไม่อิ่มเลย ” ทาคาสุงิแกล้งทำเป็นหูทวนลม พอเอ่ยจบก็จับร่างบางคว่ำหน้าลงกับหมอน พร้อมกับยกสะโพกขึ้นมาแล้วสอดใส่เข้าไปอีกครั้งจนสุด

คามุอิแนบหน้ากับหมอนนุ่มเก็บกลั้นเสียงครางเอาไว้ เมื่ออีกฝ่ายรุกรานเข้ามาโดยไม่ได้เล้าโลมแม้แต่น้อย สองขาของเขารองรับแรงกระแทกจากทาคาสุงิจนแทบจะไม่ไหว เสียงผิวเนื้อกระทบกันตามจังหวะของร่างโปร่ง ใบหน้าหวานซีดเซียวลงมากกว่าเดิม เพราะเริ่มทนไม่ไหว แต่ทาคาสุงิไม่ทันสังเกต เพราะเด็กหนุ่มคว่ำหน้าลงกับหมอนจึงทำให้มองเห็นหน้าไม่ชัด

สายตาของคามุอิเริ่มเลือนรางด้วยม่านน้ำตา ทุกครั้งที่ทาคาสุงิขยับกายอยู่ในตัวของเขา จิตใจก็เผลอคล้อยตามจังหวะการชักนำของอีกฝ่ายทุกที เชาเกลียดที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้ เกลียดที่เผลอใจไปให้คนร้ายกาจอย่างทาคาสุงิย่ำยีเล่นๆ จนในที่สุดร่างโปร่งก็เสร็จกิจอีกครั้งและปล่อยเข้าไปในช่องทางของเด็กหนุ่มจนมันไหลเอ่อล้นออกมาเปื้อนโคนขาขาวเนียน

“ คามุอิ...” ทาคาสุงิเอ่ยเรียกชื่อเด็กหนุ่มที่จู่ๆ ก็เงียบไปจึงพลิกร่างบางที่นอนคว่ำหน้าอยู่ขึ้นมาก็เห็นว่าใบหน้าซีดไปหมด หมดสติไปแล้วหรอ? เขาจัดท่าให้อีกฝ่ายนอนดีๆ แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมเรือนกายเปลือยเปล่าจากความหนาวเย็น

เขายื่นมือปัดเกลี่ยเส้นผมเปียกชุ่มเหงื่อที่ปรกใบหน้าหวานออกไป ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ไล่มาที่แก้มใสและบรรจงจูบที่ริมฝีปากอีกครั้ง เขาเองก็รู้สึกเพลียเหมือนกันจึงเข้าไปนอนด้วย พร้อมกับดึงร่างบางเข้ามากอดในอ้อมแขนแกร่ง จนร่างกายของทั้งสองคนแนบนิดราวกับหลอมละลายเป็นคนเดียวกัน ฉันชอบนายจริงๆ นะ คามุอิ

ทางด้านชินอิจิที่กลับมาที่ห้องทำงานก็เปิดลิ้นชักออกมาและหยิบกระเป๋าใส่บัตรสำคัญขึ้นมาเปิดดู บัตรประชาชนของเขาหายไปไหนกัน? หรือว่าชินสุเกะจะเอาไป? เพราะวันนี้เจ้าตัวดีออกไปข้างนอกบ้าน แต่บัตรเครดิตก็อยู่ครบนี่นา แล้วจะเอาบัตรประชาชนของเขาไปทำไมกัน? พอลองโทรหาก็ไม่ยอมรับสายอีกด้วย หวังว่าคงไม่เอาไปทำอะไรเสียหายหรอกนะ

ชินอิจิโทรหาเพื่อนของลูกชายทุกคนและถามเกี่ยวกับเรื่องบัตรประชาชน แต่เด็กหนุ่มทั้งสามไม่ทราบอะไรเลย เขาจึงไม่ได้ถามต่อ หลังจากคาซึระวางสายจากพ่อของทาคาสุงิแล้วก็นั่งใช้ความคิดไปพลางๆ มันจะเอาบัตรประชาชนของพ่อไปทำอะไรวะ? ถ้าจะเอารถพ่อมาขับก็น่าจะเอาแค่ใบขับขี่ก็พอนี่นา แต่จู่ๆ ก็มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเขา


แต่เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ? บัตรประชาชนเอาไว้ใช้จองโรงแรมได้นี่นา! หลังจากพาตัวคามุอิมาจากบันไซแล้ว ทาคาสุงิต้องพาไปเข้าโรงแรมแน่ๆ เลย แต่หมอนั่นอายุยังไม่ถึง 20 ปี ทางโรงแรมคงไม่อนุญาตให้เข้าพักจึงต้องใช้บัตรประชาชนของผู้ใหญ่ ไอ้หมอนี่ร้ายกาจจริงๆ คงจะวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วสินะ? ถึงได้ขโมยบัตรประชาชนของพ่อมาใช้ 

To Be Con

ยังงงงงง ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ น้องมุยยังเจออีกเยอะ หึหึ (น้องมุย - ฉันอยากฆ่าเธอจริงๆ -*- )
ตอนหน้ามีอีกนะคะ นี่แค่เบาะๆ (หราาาาา) แล้วติดตามกันต่อนะคะ ว่าน้องจะลุกมาเดินได้มั้ย XD

ไม่มีความคิดเห็น: