2559-01-25

[Fic Takasugi x Kamui] Beauty Beast E.P.12 (Full)

เคยบอกไปแล้วว่า NC แบบฟูลออฟชั่นจะลงในบล็อคส่วนตัว (กันโดนแบน XD)

อากาศหนาวๆ แบบนี้ อย่ารอช้าดีกว่า ไปอ่านกันเล้ยยยย อย่าลืมเตรียมทิชชชู่ด้วยล่ะ ฮี่ๅๅ

[Gintama] Beauty Beast E.P.12
Pair :Takasugi x Kamui
Rate : PG-13 (น่าจะ)
Writer : Satouyui

ทั้งสองจ้องตากันอยู่นานสองนานในอ้อมแขนของร่างสูง ทำให้ซาซากิได้พิจารณาหน้าตาของเด็กหนุ่มอย่างละเอียด คาซึระรู้สึกตัว เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของนักเรียนสาวที่เดินผ่านมาพอดีจึงรีบผละออกจากอีกฝ่าย ก่อนจะเดินหนีจากอาจารย์หนุ่มให้เร็วที่สุด บ้าชะมัด! ตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของคามุอิที่ถูกผู้ชายด้วยกันฉวยโอกาสแล้วล่ะ


ซาซากิมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา น่าสนใจดีนี่  เขากดดูภาพที่แอบถ่ายคาซึระตอนกินราเม็งอย่างหิวโหยอีกครั้ง ภาพหาดูยากแบบนี้จะให้ลบทิ้งไปก็น่าเสียดายแย่เลย เขาปิดฝาพับมือถือลงและเก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง


คาซึระกลับมาถึงบ้านก็รีบสะสางการบ้านจนเสร็จเรียบร้อย เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้สองคนนั่นต้องขอลอกแน่ๆ สองคนที่ว่าก็คือกินโทกิกับซาคาโมโตะ คนนึงก็ติดเกมส์จนไม่หลับไม่นอน คนนึงติดอนิเมะจนไม่มีเวลาทำการบ้าน ส่วนทาคาสุงิน่ะหรอ? การบ้านคืออะไร? มันไม่เคยสนใจจะทำเลยสักนิด เจริญล่ะพวกเอ็ง! จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าต้องส่งรูปคามุอิให้มันนี่นา


ทาคาสุงิเตรียมจะเข้านอน เพราะเพิ่งกินยาแก้ปวดแผลไป เสียงเรียกเข้าเมลล์ดังจากมือถือจนเขาต้องหยิบมาเปิดดู ใครมันบังอาจส่งเมลล์มารบกวนเขาตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ หน้าจอมือถือแสดงว่าเป็นเมลล์จากคาซึระ เขาจึงต้องเปิดดู


ชื่อหัวข้อเมลล์ ของฝากจากอาจารย์ซาซากิ


สิ่งที่ส่งมาในเมลล์คือรูปภาพของคามุอิตอนที่นอนพักอยู่ในห้องพยาบาล ใบหน้าหวานฟกช้ำด้วยฝีมือของเขา มานึกดูตอนนี้เขาก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าออมมือหลบหมัดอีกฝ่ายลูกเดียวไม่ยอมชกกลับ คามุอิก็จะคิดว่าเขาดูถูกฝีมืออีก ว่าแต่ทำไมอาจารย์ห้องพยาบาลคนนั้นต้องถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย? หรือว่าคิดอะไรกับคามุอิ? แค่คิดเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา


โรงเรียนสหประจำจังหวัด

“ อรุณสวัสดิ์ ทาคาสุงิ ” คาซึระเอ่ยทักทายเพื่อนหน้าคมที่เพิ่งมาถึงและกำลังทิ้งตัวนั่งลงประจำโต๊ะตัวเอง


“ อรุณสวัสดิ์ เมื่อคืนนายส่งรูปมาให้ฉันทางเมลล์นี่ แต่ฉันเพลียมากเลยไม่ได้ตอบกลับ ”


“ เป็นไงล่ะ? ชอบรึเปล่า? ”


“ หึหึ ของสวยๆ งามๆ ใครจะไม่ชอบล่ะ แล้วทำไมอาจารย์ซาซากินั่นต้องถ่ายรูปคามุอิด้วย? ”


“ ฉันถามแล้ว เค้าก็ตอบว่าแค่ชอบถ่ายรูปของสวยๆ งามๆ เก็บเอาไว้ เป็นงานอดิเรกน่ะ ”


“ แต่ฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบยังไงก็ไม่รู้ จะถ่ายอะไรก็ถ่ายไปเหอะ แต่ไม่ชอบให้มาถ่ายคามุอิแบบนี้ ”


“ หึ นายหวงคามุอิใช่มั้ยล่ะ? ”


“ แน่นอน เพราะเค้าเป็นของฉันแล้ว ”


“ หา!? ตั้งแต่เมื่อไหร่!? ” กินโทกิกับซาคาโมโตะเข้ามาได้ยินพอดีจึงถามออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตกใจ 


“ หึหึ ฉันไม่บอกพวกแกหรอก ” ทาคาสุงิเอ่ยเหมือนจงใจแกล้งให้เพื่อนที่อยากรู้อยากเห็นคลั่งเล่นๆ 


“ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ แกไปได้เค้าตั้งแต่เมื่อไหร่? ” กินโทกิเอ่ยถามพลางจับไหล่ของเพื่อนหน้าคมเขย่าไปด้วย


“ ไม่เกี่ยวกับพวกแก นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับคามุอิสองคน ” ทาคาสุงิเอ่ยพลางปัดมือของกินโทกิออกไป


“ นี่แกยังเห็นพวกฉันเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าห๊ะ? เดี๋ยวนี้หัดมีความลับหรอวะ? ” ซาคาโมโตะเอ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจ


“ แกไม่บอกน่ะดีแล้ว เรื่องแบบนี้มาป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ คามุอิจะเสียหายนะ ” คาซึระเอ่ยขึ้นมาอย่างเห็นใจเด็กหนุ่ม แต่ในใจก็แอบอยากรู้อยู่เหมือนกันว่าทาคาสุงิไปได้คามุอิตั้งแต่เมื่อไหร่? ตอนไหน? หรือว่าเมื่อวานที่กลับด้วยกัน...?


“ ชริส์ ไม่อยากรู้ก็ได้วะ ” ซาคาโมโตะบ่นออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะกลับไปนั่งที่ของตัวเอง


“ จริงๆ ฉันแค่แกล้งพวกแกเท่านั้นแหละ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเค้าเลย ” ทาคาสุงิตอบไปตามความจริง...แค่ครึ่งเดียวนะ


“ ไอ้บ้า เรื่องแบบนี้เอามาล้อเล่นได้ไงวะ ” กินโทกิบ่นอย่างหัวเสียและอดรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ฟังประสบการณ์สดๆ ไม่ได้


“ เออ นี่ ทาคาสุงิ แล้วแกคุยกับคามุอิเรื่องนั้นรึยัง? ” คาซึระเอ่ยถามขึ้นมาเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้


“ บอกไปแล้ว เค้าจะเอาไปพิจารณาดูอีกที ”


“ แต่ถ้าเด็กนั่นไม่ยอมทำตามที่แกขอจริงๆ แกก็ให้คาซึระแกล้งเป็นแฟนแทนสิวะ ”


“ เออ ใช่ ถ้ามันแต่งหญิงล่ะก็ รับรองมาทาโกะจังต้องเชื่อแน่ๆ ”


“ ไม่เอาเว้ย! ” ทาคาสุงิกับคาซึระเอ่ยตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว


“ ฉันไปทวงคำตอบจากเค้าเองดีกว่า ” พอเอ่ยจบทาคาสุงิก็ลุกออกจากห้องไปทันที เพราะต้องการคำตอบจากอีกฝ่าย

ปี 1 ห้อง B

“ คามุอิ...รุ่นพี่ทาคาสุงิมาหาแหนะ ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกพลางชี้ไปทางประตูห้อง


“ ขอบใจ...รุ่นพี่มีธุระอะไรกับผมหรอ? ” คามุอิเอ่ยตอบเพื่อนคนนั้น ก่อนจะเดินเข้ามาถามอีกฝ่าย แต่ถูกร่างโปร่งฉุดข้อมือแล้วพาออกไปคุยกันด้านหลังตึกเรียนที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมา เพราะต้องการคุยแบบส่วนตัว


“ ฉันจะมาทวงคำตอบเรื่องเมื่อวาน ”


“ เสียใจด้วย ผมมาคิดดูแล้วก็มีแต่เสียเปรียบเห็นๆ ผมไม่ยอมเล่นละครหลอกๆ แบบนั้นหรอก รุ่นพี่ไปขอคนอื่นเถอะ ” 


“ อย่าลืมว่านายเป็นของฉันไปเกือบครึ่งแล้ว...จำได้มั้ย? ” ทาคาสุงิเอ่ยขึ้นมาพลางยกนิ้วขึ้นมาชี้บริเวณซอกคอของตัวเอง เพื่อเตือนความจำของเด็กหนุ่ม จนอีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก เจ็บใจนัก ไม่นึกว่ารุ่นพี่จะเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ ร้ายกาจจริงๆ เลย


“ เรื่องนั้นน่ะ...ผมลืมไปแล้ว ” คามุอิแกล้งทำทีเอ่ยบอกไปแบบนั้น แต่กลับไม่ยอมสบตาคมของอีกฝ่ายเลย


“ หึหึ ลืมจริงๆ หรอ? เห็นทีฉันคงต้องเตือนความจำอีกครั้งแล้วล่ะ...มาสานต่อจากเมื่อวานกันดีกว่า ” ทาคาสุงิเอ่ยพลางยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนกำแพงตึกเรียนในลักษณะคร่อมร่างบางในท่ายืน ใบหน้าคมค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้ซอกคอของเด็กหนุ่มที่เบือนหน้าหนี แต่การกระทำเช่นนี้กลับทำให้อีกฝ่ายรุกรานได้อย่างสะดวกมากขึ้น


“ อือ...หยุดเดี๋ยวนี้...เดี๋ยวมีคนมาเห็น...” คามุอิเอ่ยพลางดันอกของอีกฝ่ายให้ออกไป แต่เรี่ยวแรงกลับหายไปซะดื้อๆ ขนาดจะชกกลับก็ยังทำไม่ได้ เพราะถูกริมฝีปากของร่างโปร่งจูบเบาๆ ที่ซอกคอ ก่อนจะดูดจนเกิดรอยแดงขึ้นมาใหม่


“ ไม่หยุด...จนกว่านายจะยอมตอบตกลง ” ทาคาสุงิผละออกมาเอ่ยตอบแล้วก็ก้มหน้าสานต่อการกระทำเมื่อครู่ต่อไป


“ อึกกก ใครจะไปยอมทำตามข้อเสนอบ้าๆ นั่นล่ะ! ” คามุอิเอ่ยขณะที่ยังขัดขืนร่างโปร่งเท่าที่พอจะมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่


“ งั้นคงต้องทำให้นายเป็นของฉันอย่างจริงจังแล้วล่ะ...นายบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ ” ทาคาสุงิผละจากซอกคอของเด็กหนุ่มแล้วผุดยิ้มมุมปากขึ้นมา แววตาคมนั้นแสดงความต้องการจากสัญชาติญาณออกมาอย่างปิดไม่มิด จนร่างบางถึงกับสะดุ้งตกใจ ทาคาสุงิในตอนนี้น่ากลัวเหมือนกับเมื่อวานที่คิดจะทำร้ายโซจิ และแล้วเด็กหนุ่มก็ถูกลากฉุดไปที่ห้องเก็บของ


เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้นในเวลาต่อมา เหล่านักเรียนต่างทยอยเข้าห้องเรียน เพื่อให้ทันเช็คชื่อในคาบโฮมรูม แต่ทาคาสุงิก็ยังไม่มีวี่แวว
ว่าจะกลับมาที่ห้อง ทำให้เพื่อนทั้งสามรู้สึกสงสัย มันหายหัวไปไหนนะ? แค่ไปทวงคำตอบทีหายไปเป็นชาติ!


“ ทาคาสุงิ ” ฮาเซกาวะ ไทโซ อาจารย์ประจำชั้นเรียกขานชื่อนักเรียนจนมาถึงชื่อทาคาสุงิ แต่ทว่าไม่มีเสียงตอบรับ


" ขอโทษครับ ไม่มีเสียงตอบรับจากชื่อที่ท่านเรียก ” ซาคาโมโตะเอ่ยตอบแบบล้อเลียนเสียงตอบรับของโทรศัพท์ ทำเอาเพื่อนทั้งห้องฮากันลั่น จนโดนอาจารย์โยนชอล์คลงกลางหน้าผากเข้าเป้าพอดีเป๊ะ ยิ่งทำให้ฮาคูณสอง


“ ทาคาสุงิไม่มาเรียนหรอ? ”


“ เมื่อเช้ายังเห็นอยู่ครับ แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ไม่รู้หายหัวไปไหน ”


“ เฮ้อ พวกเธอก็เรียนอยู่ปี 3 กันแล้ว ตั้งใจเรียนหน่อยซิ อยากจบพร้อมรุ่นน้องปี 1 รึไง? ”

       
“ หมอนี่ถึงยังไม่จบพร้อมเด็กปี 1 ก็ผมหงอกหมดหัวแล้วครับอาจารย์ ” ซาคาโมโตะหันไปแซวเพื่อนผมเงินที่นั่งข้างๆ


“ เดี๋ยวแกจะเลือดออกหัว ไอ้ซาคาโมโตะ! ” กินโทกิหันไปด่าเพื่อนหัวหยิกที่แซวเรื่องสีผมของเขา


“ นี่ พวกเธอยังเห็นหัวฉันอยู่รึเปล่า? จริงเล้ยๆ ไอ้เด็กพวกนี้ อีกสองเดือนก็จะสอบมิดเทอมแล้ว ตั้งใจหน่อย ” ฮาเซกาวะถอนหายใจอย่างนึกเอือมระอา แต่เขาก็ไม่ได้เช็คขาดทาคาสุงิ เพราะเมื่อเช้ายังเห็นเด็กหนุ่มมาโรงเรียนอยู่เลย


ทางด้านทาคาสุงิที่ทั้งดึงกึ่งลากเด็กหนุ่มให้ตามเขาไปที่ห้องเก็บของเก่าของโรงเรียน ถ้าเป็นที่นี่คงไม่มีใครได้เห็นหรือได้ยินอะไรแน่นอน ประตูหน้าห้องเก็บของมีเพียงท่อนไม้กลัดเอาไว้เท่านั้น ร่างโปร่งดึงไม้นั้นทิ้งไว้ข้างๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป


“ นี่! อย่าคิดทำอะไรบ้าๆ กับผมนะ! ” คามุอิเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากอีกฝ่ายให้ได้ ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันนะ? ทาคาสุงิล็อคกลอนห้องเก็บของจากด้านใน ก่อนจะเหวี่ยงเด็กหนุ่มจนล้มลงไปบนกองเบาะเก่าๆ ที่วางอยู่บนพื้นอย่างแรง และตามมาคร่อมด้านบน พร้อมกับกดข้อมือทั้งสองข้างของร่างบางตรึงเอาไว้ข้างศีรษะอย่างแน่นหนา


“ ฉันบอกแล้วไงว่าคราวหน้าจะไม่ใจดีกับนายอีก...คราวนี้ฉันไม่ปล่อยนายแน่ ” ทาคาสุงิเอ่ยจบก็โน้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากบางสีสวยอย่างดูดดื่มทันที ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากของอีกฝ่าย เพื่อลิ้มรสความหวานให้ได้มากที่สุด 


คามุอิออกแรงทั้งผลักทั้งดันอีกฝ่ายให้ออกห่าง แต่ก็เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเขาสู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้เลย ส่วนสูงก็เท่ากันแท้ๆ แต่ทำไมทาคาสุงิถึงได้มีเรี่ยวแรงมหาศาลขนาดนี้นะ? น่าเจ็บใจที่เขาทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย จู่ๆ เขาก็คิดวิธีที่จะเอาคืนอีกฝ่ายขึ้นมาได้ เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากของทาคาสุงิอย่างแรง จนอีกฝ่ายต้องถอนจูบออกไปทันที


 หึหึ กล้ากัดฉันหรอ? ชอบความรุนแรงสินะ? เดี๋ยวฉันจัดให้ ทาคาสุงิยกหลังมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ซึมจากปากแผล พอเอ่ยจบก็จัดการถอดเข็มขัดออกมารัดข้อมือของเด็กหนุ่มกับขาโต๊ะที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แล้วก็ปลดกระดุมเสื้อนอกจนหมด ตามด้วยเลิกเสื้อยืดข้างในขึ้นมาจนถึงหน้าอก จากนั้นก็ถอดกางเกงร่างบางรวมถึงชั้นในทิ้งไว้ข้างๆ  


คนโรคจิต! ขนาดผมเป็นผู้ชายก็ยังไม่ละเว้น! คามุอิก่นด่าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกโกรธและเจ็บใจที่ทาคาสุงิทำกับเขาเหมือนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เท่านั้น


หึหึ นายดื้อกับฉันก่อนนะ ถ้านายยอมทำตามข้อตกลงดีๆ ก็คงไม่ต้องมาจบแบบนี้ ทาคาสุงิยกยิ้มเย้ยหยันเด็กหนุ่ม ก่อนจะก้มลงไปซุกไซร้ซอกคอขาว พร้อมกับดูดจูบให้เกิดร่องรอยสีแดงเป็นจ้ำตามผิวกายขาวเนียน จากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นไล่เลียลงมาเรื่อยๆ จนถึงยอดอกสีชมพูของเด็กหนุ่มที่ล่อตาล่อใจเหลือเกิน ปลายลิ้นร้อนเลียวนโดยรอบแล้วขบเม้มเบาๆ สร้างความรู้สึกสยิวแปลกๆ ให้กับร่างบางจนใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยอารมณ์ส่วนลึกในใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ


“ อ๊ะ..หยุดเดี๋ยวนี้...”  คามุอิหลับตาลงด้วยความรู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูกที่ยอดอกทั้งสองข้างโดนทั้งลิ้นอุ่นชื้นและปลายนิ้วของร่างโปร่งสลับกันจัดการจนแทบทนไม่ไหว เขาเกลียดตัวเองที่ร่างกายไปคล้อยตามการกระทำของอีกฝ่าย


สั่นเชียวนะ ท่าทางจะยังไม่เคย เดี๋ยวฉันจะสอนนายเอง ” ทาคาสุงิยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงหวานสั่นเครือ เพราะถูกปลุกเร้าที่ยอดอกอย่างหนัก ตามด้วยร่องสะดือที่ถูกปลายลิ้นอุ่นแหย่เลียเล่นจนทั้งเรือนร่างสั่นสะท้านไปหมด


อ๊าา รุ่นพี่เลวที่สุด...รังแกคนไม่มีทางสู้...อ๊าาา...สนุกนักรึไง...อื้อออ คามุอิพยายามเอ่ยออกมาให้เป็นคำพูดอย่างยากลำบาก เพราะส่วนอ่อนไหวถูกมือของอีกฝ่ายขยับรูดรั้งขึ้นลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนมันเริ่มตื่นตัวขึ้นมาด้วยแรงอารมณ์ 


จากนั้นส่วนอ่อนไหวของเด็กหนุ่มก็ถูกโพรงปากร้อนของอีกฝ่ายครองครองทั้งหมดแล้วขยับขึ้นลงตามจังหวะ เรียวขาขาวพยายามจะหุบหนี แต่ถูกทาคาสุงิจับพาดไหล่กว้าง พร้อมจับยึดสะโพกเอาไว้ไม่ให้ดิ้น เพื่อให้เขาได้ปรนเปรอด้วยปากอย่างสะดวกมากขึ้น ร่างโปร่งใช้ริมฝีปากดูดเม้มส่วนปลายอย่างจงใจ แล้วเพิ่มความเร็วในการขยับปากมากขึ้นอีกเท่า


อ๊าาาา...ผม...จะไปแล้ว...อ๊ะ! เสียงหวานของเด็กหนุ่มครางระงม มือเรียวเกร็งจิกเบาะเก่าๆ เพื่อระบายอารมณ์ จนในที่สุดร่างกายก็กระตุกเบาๆ ก่อนจะปลดปล่อยของเหลวอุ่นเข้าไปในปากของอีกฝ่ายจนหมด กลีบปากสีกุหลาบเผยอเล็กน้อยเพื่อหอบหายใจ เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามใบหน้าสวยจนเปียกชุ่ม ดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์คุกรุ่น  


“ หึหึ หวานจังเลยรสชาติของนายอร่อยมากเลยนะ ” ทาคาสุงิกลืนกินของเหลวที่เด็กหนุ่มปลดปล่อยออกมาอย่างไม่รู้สึกรังเกียจและก้มมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ จากนั้นเขาก็ถอดกางเกงและชั้นในของตัวเองออกไปทันที ถ้าหากเมื่อวานคามุอิไม่ห้ามเขาเอาไว้ก็คงตกเป็นของเขาไปแล้ว แต่ช่างเถอะ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ตอนไหน คามุอิก็ต้องเป็นของเขา


คามุอิข่มหลับตาลงและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เพราะไม่อยากเห็นภาพที่ตัวเองถูกผู้ชายด้วยกันขืนใจอย่างเสียศักดิ์ศรี ร่างโปร่งจับเรียวขาขาวแยกออกจากกัน แล้วค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางคับแคบและอุ่นชื้นของร่างบาง เพื่อเปิดทางก่อนการรุกรานที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ นี่แค่นิ้วยังตอดรัดดีขนาดนี้ ถ้าหากเขาใส่ของตัวเองเข้าไปคงจะรู้สึกดีมากกว่านี้แน่ๆ


อ๊ะ! ผมเจ็บ...เอาออกไปเดี๋ยวนี้...อื้อออ คามุอิสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่กำลังบุกรุกช่องทางของเขา พลางขยับสะโพกหนี แต่กลับถูกอีกฝ่ายจับยึดเอาไว้ พร้อมกับขยับนิ้วเข้าออกตามจังหวะไปด้วย จนทำให้ร่างบางเผลอแยกขาออกจากกันตามสัญชาติญาณ แต่ดูเหมือนการกระทำนี้จะเปิดทางให้ร่างโปร่งรุกรานเขาได้สะดวกมากขึ้น 


ทาคาสุงิโน้มลงไปประกบจูบพร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของร่างบาง และยังเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกแล้วขยับเข้าออกเร็วยิ่งขึ้น จนเห็นร่างบางเกือบจะเสร็จจึงรีบถอนนิ้วออกแล้วแทนที่ด้วยแก่นกายแข็งขืนของตัวเองทันที ทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งร้องเสียงหลงเมื่อสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วแทรกเข้ามาในร่างกายของเขาทีเดียวจนสุดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวและเริ่มขยับกายด้วยความเร็วในครั้งแรกอย่างไม่ปราณี จนได้ยินเสียงผิวเนื้อกระทบกันดังตามจังหวะที่ร่างสูงป้อนใส่อย่างต่อเนื่อง


หึหึ เป็นไงล่ะ? เริ่มชอบขึ้นมาบ้างรึยัง? ” ทาคาสุงิเอ่ยถามพร้อมกับยกยิ้มให้กับร่างบางที่ร้องครวญครางแทบฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อเขาเพิ่มความเร็วจนเป็นการซอยถี่กระชั้นชิด ยิ่งเด็กหนุ่มรู้สึกเกร็งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งบีบรัดของเขามากขึ้นเท่านั้น


อ๊าาา...ไม่เอา...ผมเจ็บ...ได้โปรด...หยุดที...อาาาา...คามุอิยอมทิ้งศักดิ์ศรีตัวเองเอ่ยขอร้องกับอีกฝ่าย เพราะเขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกายราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่ออีกฝ่ายกระทำกับเขาอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนแบบนี้ แม้จะเคยชกต่อยกับคู่ต่อสู้จนบาดเจ็บมาแล้วก็หลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันเจ็บจนแทบทนไม่ไหว น้ำตาอุ่นไหลลงมาจากหางตาของเด็กหนุ่มเรื่อยๆ


ยอมแพ้แล้วสินะ? จำไว้ว่าถ้านายดื้อกับฉัน...จะโดนหนักกว่านี้ ทาคาสุงิเอ่ยจบก็เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดออกจากข้อมือของเด็กหนุ่ม ข้อมือขาวมีรอยแดงอย่างเห็นได้ชัด ร่างโปร่งจูบเบาๆ อย่างอ่อนโยนที่ข้อมือนั้น ราวกับจะบ่งบอกว่าขอโทษ เขาประคองใบหน้าหวานที่มีแต่คราบน้ำตาแห่งความเจ็บปวด ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจูบซับให้อย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เลื่อนขึ้นไปจุมพิตที่หน้าผาก แก้มขาวใส จนมาถึงริมฝีปากสีกุหลาบที่ถูกเขาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เคยนึกเบื่อเลยสักนิด


คามุอิยกสองแขนโอบรอบต้นคอของอีกฝ่ายเอาไว้ขณะรับจูบหวานอย่างเคลิบเคลิ้ม เด็กหนุ่มแอบนึกคิดในใจ บทจะร้ายก็ร้ายเหลือเกิน บทจะดีก็ดีจนใจหาย ตกลงรุ่นพี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ? ทั้งสองถอนริมฝีปากออกจากกันเพื่อพักหายใจ แล้วประกบทาบทับกันอีกครั้ง พร้อมเปลี่ยนมุมจูบไปเรื่อยๆ ในขณะที่ร่างโปร่งก็เริ่มขยับกายอีกครั้งอย่างอ่อนโยน


คามุอิร้องครางในลำคอเบาๆ เพราะริมฝีปากถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยจูบที่หนักหน่วงและร้อนแรงของอีกฝ่าย เรียวขาแยกออกจากกัน พร้อมกับช่วยสะโพกยกขึ้นมาตอบรับการรุกรานใหม่ที่นุ่มนวลของทาคาสุงิ แผลจากการเสียดสีเมื่อครู่พอถูกรุกรานอีกครั้งก็เกิดความรู้สึกเจ็บแสบปนเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก ทำให้ในใจของเด็กหนุ่มเผลอรู้สึกดีๆ ไปด้วย


คามุอิ...เรียกชื่อฉันสิ ทาคาสุงิถอนจูบออกมาแล้วกระซิบข้างหูของร่างบางในขณะที่ยังขยับกายเข้าออกช่องทางคับแน่นอุ่นชื้นอย่างเป็นจังหวะ พร้อมกับซุกไซร้สูดดมกลิ่นกายหอมหวานที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของเด็กหนุ่มไปด้วย 


อ๊ะ....อ๊าาา...รุ่นพี่..ชิน...สุเกะ..อื้อออ คามุอิหลับตาพริ้มลงและเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมา พลางเบือนหน้าไปอีกทาง เพื่อให้ร่างโปร่งไล่ลิ้มรสซอกคอขาวได้สะดวกมากขึ้น ทาคาสุงิได้ยินแล้วจึงยกยิ้มอย่างพอใจที่เห็นม้าพยศเลิกดื้อกับเขา


ทาคาสุงิหยุดการขยับกายแล้วดึงข้อมือของร่างบางให้ลุกขึ้นมานั่งบนตักของเขา คามุอิเม้มริมฝีปากเมื่อได้รับความเสียวซ่านจากแก่นกายของร่างโปร่งเข้ามาในตัวเขาลึกมากขึ้นในท่านี้ ทาคาสุงิจับสะโพกของเด็กหนุ่มให้ลงมารับการรุกรานจากเขาตามจังหวะที่เขาควบคุมเอง ร่างบางก้มลงกัดที่ไหล่ของอีกฝ่ายผ่านเนื้อผ้าเพื่อปิดกั้นเสียงครางและระบายความรู้สึกที่ได้รับ วงแขนกอดรัดร่างโปร่งแน่นขึ้นกว่าเดิม ยิ่งทาคาสุงิขยับสะโพกของเขาเร็วขึ้นเท่าไหร่ ความเสียวยิ่งเพิ่มเป็นเท่าตัว


“ รุ่นพี่อื้ออผมจะไปแล้ว ” คามุอิเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากเพราะแก่นกายของอีกฝ่ายยังขยับอยู่ในตัวของเขา ตอนนี้เขารู้สึกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนรุ่มไปหมด ราวกับมีไฟมาแผดเผา ริมฝีปากบางเผยอหอบหายใจตามแทบไม่ทัน


อดทนอีกนิดนะ ทาคาสุงิเปลี่ยนท่าพลิกร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงกับเบาะ และจับสะโพกมนขึ้นมาในระดับที่พอดีและกระแทกกายเข้าใส่อย่างถี่เร็วตามแรงอารมณ์ที่จวนจะถึงปลายทาง มืออีกข้างก็ช่วยรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของร่างบางไปด้วย


ใบหน้าหวานที่เปียกชุ่มเหงื่อซบลงกับเบาะพร้อมกับจิกเล็บลงไปเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ เสียงผิวเนื้อกระทบกันตามจังหวะผสมผสานกับเสียงหอบหายใจและเสียงครางแห่งความสุขสมของคนทั้งสอง จนเด็กหนุ่มปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเป็นคนแรก จนเบาะเก่าๆ นั้นเปรอะเปื้อนไปหมด เรียวขาทั้งสองข้างสั่นระริกเริ่มจะรับแรงจากอีกฝ่ายไม่ไหว 


ในที่สุดทาคาสุงิก็พาคามุอิไปถึงฝั่งพร้อมกันด้วยการกระแทกเข้าไปอีกสองสามครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางของเด็กหนุ่ม ทำให้ของเหลวขาวขุ่นที่เขาปล่อยเข้าไปไหลออกมาเปื้อนโคนขาขาวปะปนกับเลือดของร่างบางด้วย และใบหน้าหวานที่ซีดเซียวจนดูน่าเป็นห่วง เขาเห็นแล้วนึกสงสารเหลือเกินและโทษตัวเองว่าทำรุนแรงเกินเหตุ 


“ คามุอิ...คามุอิ! ” ทาคาสุงิเอ่ยเรียกชื่อเด็กหนุ่มด้วยความตกใจที่เห็นอีกฝ่ายหมดสติจนล้มลงไปนอนแน่นิ่งบนเบาะ เขารีบเประคองเด็กหนุ่มขึ้นมากอดเอาไว้แน่นจนรู้สึกถึงไอร้อนที่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย เขาจึงลองใช้หลังมือแตะตามหน้าผาก ใบหน้าและลำคอของคามุอิจนแน่ใจแล้วว่าไม่สบาย ก่อนจะรีบแต่งตัวให้เด็กหนุ่มและตัวเองเรียบร้อยแล้วก็อุ้มไปส่งที่ห้องพยาบาลทันทีด้วยความร้อนใจ แม้ระหว่างทางจะมีคนมองมาที่พวกเขาอย่างสงสัย แต่ก็ทาคาสุงิก็ไม่ได้สนใจ


“ เด็กคนนี้เป็นอะไรอีกล่ะ? คงไม่ได้ไปซัดกันมาอีกนะ ” ซาซากิที่กำลังนั่งตรวจงานอยู่ก็ต้องหันไปมองที่ประตูห้อง พบว่าทาคาสุงิอุ้มเด็กผมเปียเข้ามาเหมือนเคย จึงเอ่ยถามและแอบสังเกตหน้าตาของเด็กหนุ่มทั้งสองไปด้วย


“ เค้าไม่สบาย เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้เอง ” ทาคาสุงิเอ่ยตอบขณะวางร่างบางลงบนเตียง ก่อนจะดึงผ้าม่านมาปิดกั้นเตียงของคามุอิทันที เพื่อป้องกันการรบกวนจากคนอื่น ซาซากิถอนหายใจ ก่อนจะไปเตรียมน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูมาวางไว้ให้

“ ตามสบายนะ ”


“ ขอบคุณครับ ” ทาคาสุงิเอ่ยขอบคุณอาจารย์หนุ่ม ทำเอาคนฟังถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี่ก็พูดจาดีๆ กับเค้าเป็นด้วย จากนั้นซาซากิก็ออกจากห้องพยาบาลไปและปล่อยให้ทาคาสุงิดูแลคามุอิตามลำพัง 


ในใจเขานึกสงสัยสีหน้าของเด็กทั้งสองอย่างมาก คนหนึ่งหน้าตาซีดเซียว อีกคนก็มีแผลที่ริมฝีปาก แต่ตามใบหน้านั้นเปียกชุ่มเหงื่อทั้งคู่ วันนี้อากาศเย็นสบาย ไม่ค่อยร้อนนี่นา เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ? ระหว่างทางเขาเจอคาซึระกับเพื่อนจอมกวนอีกสองคนเดินผ่านมาพอดี ดูจากท่าทางคงกำลังตามหาตัวทาคาสุงิอยู่แน่ๆ แต่พอคาซึระเห็นหน้าเขาแล้วก็ทำเป็นเมินใส่ 


“ นี่ พวกเธอกำลังตามหาเพื่อนอีกคนอยู่รึเปล่า? ” 


“ อาจารย์รู้ได้ไงอ่ะครับ? มีญาณทิพย์หรอ? ” กินโทกิเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ จนอาจารย์หนุ่มอยากตบหัวทิ่ม


“ เปล่าหรอก ฉันแค่เดาเอาน่ะ เพราะคิดว่าพวกเธอกำลังตามหาทาคาสุงิอยู่ ”


“ แล้วอาจารย์เห็นมันบ้างรึเปล่าครับ? หายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ตอนเช้าก็ยังเห็นอยู่เลย ”


“ ตอนนี้เค้ากำลังดูแลเด็กปี 1 ที่ชื่อคามุอิอยู่ที่ห้องพยาบาลน่ะ เดี๋ยวพวกเธออย่าเพิ่งไปหาเค้าตอนนี้ดีกว่า ” ซาซากิเอ่ยห้ามเด็กหนุ่มทั้งสามที่ทำท่าจะไปหาทาคาสุงิที่ห้องพยาบาลตามที่เขาเพิ่งจะบอกไปเมื่อครู่ ทำเอาเด็กหนุ่มทั้งสามนึกสงสัยกับคำพูดของอาจารย์หนุ่ม ทำไมถึงห้ามไม่ให้พวกเขาไปหาล่ะ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคามุอิ?


“ ทำไมอาจารย์ถึงห้ามไม่ให้พวกเราไปล่ะครับ? มีอะไรรึเปล่า? ” ในที่สุดคาซึระก็เป็นคนเอ่ยถามออกมาอย่างนึกสงสัย


“ คามุอิไม่สบาย ทาคาสุงิกำลังเช็ดตัวให้ และฉันคิดว่าเพื่อนของพวกเธอคงไม่อยากให้ไปเห็นตอนนี้หรอก ”


“ คามุอิไม่สบาย? อาจารย์พอรู้มั้ยว่าเป็นอะไร? ”


“ ไม่รู้สิ ทาคาสุงิไม่ยอมให้ฉันยุ่งกับเด็กนั่นเลย แต่ดูจากสีหน้าของคามุอิที่ซีดเซียว คงจะเป็นไข้ล่ะมั้ง ”


“ ไม่ใช่ว่าหมอนั่นทำให้เป็นไข้หรอกนะ” กินโทกิเอ่ยพึมพำขึ้นมา หายไปนานสองนานขนาดนั้น เขาไม่อยากจะคิดอกุศลเลยจริงๆ ในที่สุดพวกเขาทั้งสามก็ยอมกลับไปที่ห้องเรียน เพราะถึงไปหาทาคาสุงิที่ห้องพยาบาลตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ 


ขณะที่ทาคาสุงิเช็ดตัวให้เด็กหนุ่มอยู่นั้น เขาสังเกตว่าร่างบางสั่นไหวราวกับหนาวเหน็บ คงเป็นผลข้างเคียงจากพิษไข้ เขาจึงดึงผ้าห่มขึ้นไปคลุมจนถึงอก แต่ร่างกายของคามุอิก็ยังไม่หยุดสั่น เขาจึงต้องขึ้นไปนอนบนเตียงและดึงร่างบางเข้ามากอดแน่น เพื่อมอบความอบอุ่นให้หายหนาว คามุอิกอดอีกฝ่ายกลับไปโดยไม่รู้สึกตัว ราวกับเด็กที่ต้องการความอบอุ่น


“ คามุอิ ฉันขอโทษ ” ทาคาสุงิเอ่ยออกมาเบาๆ ราวกับเสียงกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่าย หวังว่านายคงจะได้ยิน ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเพลียเช่นกัน คามุอิค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ และพบว่าตัวเขาอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย มิน่าล่ะ ถึงได้รู้สึกอุ่นจังเลย ตอนนี้เขาไม่มีแรงแม้จะดันทาคาสุงิออกไปและต้านทานความอ่อนเพลียไม่ได้จึงซุกอกของร่างโปร่งหลับไป


พอถึงเวลาพักเที่ยงแล้วกินโทกิ คาซึระและซาคาโมโตะก็มาตามทาคาสุงิที่ห้องพยาบาลอีกครั้ง นี่มันจะนั่งเฝ้าคามุอิจนถึงเลิกเรียนเลยรึไงนะ? พวกเขาขี้เกียจตอบคำถามของอาจารย์แล้วนะเฟ้ย! เมื่อทั้งสามมาถึงห้องพยาบาลที่เงียบไร้ผู้คนก็เห็นเตียงหนึ่งถูกปิดกั้นด้วยผ้าม่านจึงค่อยๆ เลิกออกไป ก่อนจะตกใจจนเบิกตาโพลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเต็มสองตา 


“ เอ่อปลุกมันดีมั้ย? ” ซาคาโมโตะเอ่ยขอความเห็นจากเพื่อนทั้งสอง แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เกิดคนอื่นมาเห็นเข้าล่ะก็สองคนนี้ถูกพักการเรียนแน่ๆ เลย ก็กอดกันกลมซะขนาดนี้ ยังกับว่ากลัวใครจะมาพรากให้ห่างจากกันงั้นแหละ


“ ปลุกเลย เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้าจะยุ่ง ” คาซึระเอ่ยบอกพลางหันไปมองรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนี้ แต่ยังไม่ทันที่ซาคาโมโตะจะเอื้อมมือออกไปเขย่าปลุก ทาคาสุงิก็รู้สึกตัวขึ้นมาก่อนพอดีและเห็นเพื่อนทั้งสามกำลังยืนค้ำหัวมองอยู่


“ ตื่นแล้วหรอคุณชาย? เล่าให้พวกฉันฟังซะดีๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น? ” เพื่อนทั้งสามพร้อมใจกันเอ่ยออกมาและจ้องเขาด้วยสีหน้าและแววตาคาดคั้นสุดๆ ราวกับตำรวจที่กำลังสอบปากคำผู้ต้องหา แถมยังมีออร่ามาคุห่อหุ้มอยู่รอบๆ ตัว ทำให้คนที่ไม่เคยกลัวใครอย่างทาคาสุงิถึงกับพูดไม่ออกเป็นครั้งแรก ทำไมวันนี้พวกมันดูน่ากลัวจังเลย 

To be con

เป็นไงคะ? แซ่บบบบบพอมั้ย? รู้สุกอุ่นขึ้นมั้ยคะ? #นับศพคนอ่าน XD
ในที่สุดเฮียก็ได้เมีย ส่วนน้องมุยก็ได้สามี เห็นมะ? วิน วินทั้งคู่ กร๊ากกก #หลบร่มน้องมุย
หลังจากนี้ก็คงจะเข้าสู่ช่วงดราม่าแล้วล่ะ เอาใจช่วยสามีภรรยาคู่นี้ด้วยนะจร้าาา 

ไหนๆ ก็ลงบล็อคแล้ว คงไม่ต้องกลัวแบนเนาะ มาแถมรูปช่วยให้จิ้นได้เห็นภาพกว่าเดิม หุหุ




เฮียทำไรน้องมุยคร๊าาาาาาาาาาาาาา #ทำหน้าใสซื่อ ไร้เดียงสา

(อีตัวเลือดกระฉูดนั่น คนวาดคงแทนอารมณ์แม่ยกทุกคนแน่เลยยย XD) 


รูปนี้ก็ร้อนแรงงงงงง แซ่บเว่อร์ เหมือนกำลังทานต้มยำหม้อไฟอยู่เลยคร๊าาา #กำเดากระฉูด

อ่ะ แถมอีกรูปสุดท้าย เดี๋ยวจะหาว่าไรท์แกล้งคนอ่านให้เลือดออกหมดตัว 


สายตาน้องอ่อยแรว๊งงงงงงงงงงงงงงงง ทั้งหมดนี่ฝีมือเฮียชินชิมิ? ตอบบบบบ 

ฟินมากพอละ เก็บไว้ฟินตอนต่อไปดีกว่า #เต้นบัลเล่ต์ออกจากบล็อค

Credit Pics : twitter, tumblr, Face book